เมื่อวันที่ 4 ก.ค. นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีการเตรียมการควบคุมตัวนายชาตรี ร่วมสูงเนิน
ผู้ต้องหาคดีฆ่าครูสาว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ว่า
หลังจากนี้กรมราชทัณฑ์มีขั้นตอนการควบคุม
ซึ่งเป็นหน้าที่ของเรือนจำในการพิจารณาเพื่อความเหมาะสม
และป้องกันไม่ให้เกิดการทำร้ายเกิดขึ้น
และที่ผ่านมาเรือนจำหลายแห่งก็รับผู้ต้องขังก่อเหตุคดีสะเทือนขวัญมาอยู่ใน
ความควบคุมอยู่แล้ว
หลังจากนี้จะต้องเน้นการพัฒนาจิตใจกลุ่มผู้ต้องขังมากขึ้น
ชาตรี"พูดไม่สะท้าน ตั้งใจข่มขืน "ครูอิ๋ว" แต่ขัดขืนเลยฆ่า
อ้างจะเข้ามอบตัวอยู่แล้ว
นายปฏิคมกล่าวว่า
ส่วนนายชาตรีที่เคยเป็นอดีตผู้ต้องขังในคดีกระทำชำเรามาก่อนหน้านี้ ดังนั้น
เมื่อศาลตัดสินกลายเป็นนักโทษเด็ดขาด
ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ที่ระบุว่าหากพบว่าผู้ต้องขังรายใดก่อเหตุหรือ
กระทำผิดซ้ำ ต้องโทษกลับเข้ามาในเรือนจำอีก ภายใน 5 ปี นับจากวันพ้นโทษ
จะได้รับการจัดชั้นนักโทษเป็นชั้นเลว ซึ่งจะถูกตัดสินต่างๆ
เช่นไม่ได้รับการลดวันต้องโทษเลื่อนชั้น
และจะไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษตามกฤษฎีกาอภัยโทษ และหากในช่วง 5 ปี
พฤติกรรมยังไม่ดีขึ้น ไม่สำนัก ก็จะเลื่อนระยะเวลาอีก
รายงาน
ข่าวแจ้งว่า นายชาตรี ร่วมสูงเนิน
เคยเป็นนักโทษในคดีข่มขืนกระทำชาเราผู้อื่น ในพื้นที่จ.สระบุรี
และเคยต้องโทษจำคุกที่เรือนจำจังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2557
ในความผิดฐานกระทำชำเรา ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี
จากนั้นเรือนจำจังหวัดสระบุรีได้ย้ายไปยังเรือนจำจังหวัดปทุมธานี
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2558 โดยขณะนั้นเป็นนักโทษชั้นดี
จากนั้นนายชาตรีได้เลื่อนเป็นนักโทษชั้นดีมาก เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2558
เนื่องจากได้รับพระราชทานอภัยโทษ ลดวันตัองโทษ 4 เดือน 24 วัน
จึงเหลือโทษจำคุก 1 ปี 7 เดือน 6 วัน ครบกำหนดพ้นโทษเมื่อวันที่ 8 ก.ย.
2558 ทั้งนี้ หากต้องโทษเข้าเรือนจำใหม่จะต้องถูกจัดเป็นชั้นเลว
เนื่องจากการกระทำความผิดอีกภายใน 5 ปี และจะไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ
No comments:
Post a Comment