เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. เว็บไซต์ chengdu.cn รายงานว่าในโรงพยาบาลเมืองปาจงพบนักเรียนที่ฝ่าเท้าเป็นแผลโดนลวก 4 คน มีพ่อแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่ง “เสี่ยวหมิ่น” หนึ่งในเด็กที่เข้าโรงพยาบาลบาดเจ็บจากแผลโดนลวกรุนแรงมาก โดยทั้งสองฝ่าเท้าแดงและบวม
เสี่ยว หมิ่นเล่าให้ฟังว่า เพราะเขาและเพื่อนร่วมชั้นไม่ได้ใส่รองเท้ากีฬาเข้าเรียนวิชาพลศึกษา จึงถูกอาจารย์สั่งให้ถอดรองเท้าแตะออกและวิ่งรอบสนามบอล 2 รอบด้วยรองเท้าเปล่า
“ในวันนั้นใส่รองเท้าแตะวิ่งมากันเยอะมาก จึงต้องวิ่งกันเท้าเปล่า รู้สึกร้อนจนลวกฝ่าเท้า แต่ก็ไม่กล้าบอกอาจารย์”
นาง เหยาเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนที่เธอไปรับ “เสี่ยวเฉิง” หลานชายที่โรงเรียน ก็เห็นเขาใช้แผ่นรองส้นเท้าแล้ว “เขาบอกว่าเขาเจ็บเท้า และมีตุ่มน้ำใสขนาดใหญ่ขึ้นที่ฝ่าเท้า เสี่ยวเฉิงยังเด็กมาก วิ่งท่ามกลางอุณหภูมิร้อนระอุที่ 37 องศา ใครเห็นแล้วจะไม่รู้สึกปวดใจบ้าง
พ่อ ของเสี่ยวเฉิงเล่าว่า หลังจากเกิดเรื่อง พอเห็นลูกชายบาดเจ็บจากแผนโดนลวกที่ฝ่าเท้า คนเป็นพ่อก็รู้สึกสะเทือนใจมาก ตอนไปรับลูกพอเห็นเขาเดินไปเข้าห้องน้ำได้ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะ
อาจารย์ พันเสี่ยวเล่าว่า “วันนั้นให้นักเรียนวิ่งเพื่อวอร์มร่างกาย และลงโทษนักเรียนที่ไม่ได้ใส่รองเท้ากีฬาลงวิ่งด้วยเท้าเปล่า แต่ไม่ได้คิดว่าสนามบอลจะร้องจนลวกเท้าเด็ก เป็นเพราะประสบการณ์การทำงานน้อยเกินไป และไม่ทันคิดว่าเด็กอาจจะถูกลวกเท้าได้ ต้องขอโทษเด็กนักเรียนทั้ง 4 คนด้วย” นอกจากจะสอนเด็กแล้ว เธอยังไปดูแลเด็กนักเรียนทั้ง 4 ที่โรงพยาบาลด้วย
นายเฉิน ผู้อำนวยการโรงเรียนพูดว่า “บางทีเด็กก็ยังแยกแยะไม่ออก โดนลวกฝ่าเท้าแล้วก็ยังไม่พูดให้ชัดเจน แต่อาจารย์ก็ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ถึงแม้จะพอเข้าใจเหตุผลของอาจารย์อยู่บ้าง แต่ก็ต้องคำนึงถึงสุขภาพร่างกายของเด็กด้วย”
credit http://www.siamupdate.com/news-183414
นาง เหยาเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนที่เธอไปรับ “เสี่ยวเฉิง” หลานชายที่โรงเรียน ก็เห็นเขาใช้แผ่นรองส้นเท้าแล้ว “เขาบอกว่าเขาเจ็บเท้า และมีตุ่มน้ำใสขนาดใหญ่ขึ้นที่ฝ่าเท้า เสี่ยวเฉิงยังเด็กมาก วิ่งท่ามกลางอุณหภูมิร้อนระอุที่ 37 องศา ใครเห็นแล้วจะไม่รู้สึกปวดใจบ้าง
พ่อ ของเสี่ยวเฉิงเล่าว่า หลังจากเกิดเรื่อง พอเห็นลูกชายบาดเจ็บจากแผนโดนลวกที่ฝ่าเท้า คนเป็นพ่อก็รู้สึกสะเทือนใจมาก ตอนไปรับลูกพอเห็นเขาเดินไปเข้าห้องน้ำได้ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะ
อาจารย์ พันเสี่ยวเล่าว่า “วันนั้นให้นักเรียนวิ่งเพื่อวอร์มร่างกาย และลงโทษนักเรียนที่ไม่ได้ใส่รองเท้ากีฬาลงวิ่งด้วยเท้าเปล่า แต่ไม่ได้คิดว่าสนามบอลจะร้องจนลวกเท้าเด็ก เป็นเพราะประสบการณ์การทำงานน้อยเกินไป และไม่ทันคิดว่าเด็กอาจจะถูกลวกเท้าได้ ต้องขอโทษเด็กนักเรียนทั้ง 4 คนด้วย” นอกจากจะสอนเด็กแล้ว เธอยังไปดูแลเด็กนักเรียนทั้ง 4 ที่โรงพยาบาลด้วย
นายเฉิน ผู้อำนวยการโรงเรียนพูดว่า “บางทีเด็กก็ยังแยกแยะไม่ออก โดนลวกฝ่าเท้าแล้วก็ยังไม่พูดให้ชัดเจน แต่อาจารย์ก็ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ถึงแม้จะพอเข้าใจเหตุผลของอาจารย์อยู่บ้าง แต่ก็ต้องคำนึงถึงสุขภาพร่างกายของเด็กด้วย”
credit http://www.siamupdate.com/news-183414
No comments:
Post a Comment