Thursday, June 30, 2016

เปิดใจ “นก วนิดา” โดนรุ่นพี่อักษร อ. ด่าชั้นต่ำ กระทบถึง “แตน ราตรี” ฟังเธอเล่าแล้วน้ำตาจะไหล!

“นก วนิดา” น้อยใจ นักแสดงรุ่นพี่ อักษรย่อ อ. ด่าชั้นต่ำ รังเกียจถึงขั้นประกาศไม่ขอร่วมงานด้วย บอกต่อให้กระโดดถีบหน้าตนก็ไม่โกรธ แต่ไม่แฟร์ลามไปด่ากราดพาดพิง “แตน ราตรี” ย้ำอีกฝ่ายเป็นเพื่อนที่ดีและไม่เกี่ยวอะไรด้วย
      
       เพิ่งจะพ้นโทษคดีพัวพันยาเสพติดมาหมาด ๆ กลับมาคราวนี้สังคมก็ให้โอกาส มีงานโลดแล่นในวงการบันเทิงอีกครั้ง ถึงจะไม่มากเหมือนเมื่อก่อน สำหรับนักแสดงตลกสาวร่างท้วม “นก วนิดา แสงสุข” แต่ ยังไม่ทันไร เจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจก่อนถ่ายรายการ “จุดเดือด” ทาง “ช่อง 2” ข่าวลึก บันเทิงร้อน ว่ามีนักแสดงรุ่นพี่ “อักษร อ.” ต่อหน้าดี แต่ลับหลังรังเกียจไม่อยากร่วมงานกับตน แถมนักแสดงรุ่นพี่คนดังกล่าวยังดาว่าตนเป็นคนชั้นต่ำ
      
       “ปกติไปงานก็จะไปคู่กับแตน(ราตรี วิทวัส) อยู่แล้ว ช่วงนั้นไปกันก็จะมีนักแสดงหลาย ๆ คนไปด้วยกัน พอดีไปเจอพี่คนนี้เขาไปที่งาน เจ้าภาพเขาก็พาเราไปนั่งที่เดียวกัน เราก็ยกมือไหว้ทักทายทุกคน ก็ไหว้เขาด้วย เขาก็มองยิ้มเล็ก ๆ แล้วก็ลุกไปเลย พอจะขึ้นเวทีเขาหายไปนานมาก เราก็นึกว่าเขาไปเข้าห้องน้ำ พอจะขึ้นเวทีเราก็ถามเจ้าของงานว่าพี่เขาไม่ขึ้นพร้อมกันเหรอ เขาบอกไม่เป็นไร ขึ้นไปก่อนเลย เราก็ขึ้นไป สนุกสนานบนเวที สักพักหนึ่งลงมาเขาก็มาบอกกับแตนว่า เจ้าของงานนะมาบอกกับแตนว่าเขากลับไปแล้ว เขาบอกว่าทำไมต้องเอาอีนก กับอีแตนมางานกับฉันด้วย ทำไมต้องเอามานั่งร่วมโต๊ะด้วย ฉันไม่อยากร่วมโต๊ะ ไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับพวกใฝ่ต่ำ พวกต่ำ พวกเสพยา พวกชั้นต่ำ
      
       “สำหรับตัวเองก็เฉย ๆ เพราะถ้าสำหรับเราเนี่ยรู้สึกว่าเราก็เป็นคนที่ผิดพลาด เป็นคนที่ไม่ดีอย่างนั้นจริงๆ ว่าเราได้ไม่เป็นไร แต่ว่าแตนเขาไม่ได้รู้เรื่องด้วย เขาไม่ได้ผิดไปกับเราด้วยเพราะฉะนั้นอยากบอกว่าการที่เราผิดพลาด แล้วคนที่เขาให้โอกาสเราเขาผิดด้วยเหรอ กับคนที่เขามีน้ำใจ หนึ่งคนที่เขาจะช่วยเหลือเรา กลายเป็นว่าเขาต้องต่ำไปด้วย มันก็ไม่ถูกต้องนะ”
      
       เผยต่อให้กระโดดถีบหน้าตนก็ไม่โกรธ แต่อย่าลากคนรอบตัวตนมาด่าด้วย
       “ก็มีน้อยใจนิดหนึ่ง น้อยใจตรงที่ว่าทำไมเขาต้องมองคนที่รอบตัวเรา หรือ คนที่เดินกับเราเป็นอย่างนั้นไปด้วย ถ้าเขาไม่ให้โอกาสเราก็ไม่เป็นไรเพราะเราก็รู้ เราทำผิดเยอะ การที่จะเขาให้โอกาสเรา เราก็ต้องให้โอกาสเขา ให้เวลาด้วย ให้โอกาสเขามองเราด้วยว่าเราเป็นคนดีชัดเจนหรือยัง เพราะฉะนั้นเราไม่โกรธที่เขาจะว่าเรา ใครจะว่าเรา ยังไงก็ได้กระโดดถีบหน้าเลยก็ได้ไม่ว่าหรอก แต่ว่าอย่าว่าคนรอบข้างเรา คนที่เขาช่วยเรา เขาเป็นคนมีน้ำใจในการที่เขาทำดี มีน้ำใจแล้วเขากลับกลายต้องเป็นคนเลวไปกับเราด้วยเหรอ คุณจะไม่ให้ในสังคมไทยเหลือคนมีน้ำใจเลยเหรอ มันไม่ใช่”
      
       “แตนเขาก็กลายเป็นให้กำลังใจเราว่าเพื่อนอย่าไปคิดมากเลย ไม่เป็นไร เราเพื่อนกัน เรา รู้กันอยู่ว่าอะไรยังไงคนอื่นเขาจะมองเรายังไงก็ช่างเขา แต่มันก็มีอีกเหตุการณ์ต่อมาอีก คือไปงานด้วยกัน แล้วต้องขึ้นเครื่องไป พอเขารู้ปุ๊บเขาขอเปลี่ยนไฟท์ทันที”
      
       “ก่อนหน้านี้ร่วมงานกันปกติ เจอกันเขาก็โอเคนะ ไม่ได้ส่อให้รู้ว่าไม่ชอบหรือรังเกียจอะไร แต่พอลับหลังกลายเป็นอย่างนี้เราก็อยากให้เขาพูดกับเราตรง ๆ ดีกว่า แล้วก็อย่าไปพาดพิงถึงคนอื่นเขา การที่เราต่ำเขาก็ต่ำของเราคน เดียว แต่การที่ถึงขนาดขอเปลี่ยนไฟท์กะทันหัน เราว่าขึ้นเครื่องบินก็สูงแล้วนะ ยังต่ำอีกเหรอ แต่ว่าทางเจ้าของงานเขาโอเคนะ เขาก็พูดเลยว่าให้เลือกเอาถ้ามีอี 2 คนนี้เขาไม่ไป แต่ทางเจ้าของงานเขาก็เลือกเรา”
      
       บอกโกรธเกลียดหรือรำคาญตน ตนไม่ว่า แต่อย่าพาดพิงคนอื่น เพราะไม่ได้ทำความผิดไปกับตนด้วย
       “ปกติค่ะ ถึงหลังมีข่าวแล้วเขาก็ปกติ ลับหลัง พอเรารู้เรื่องในกลุ่มแล้วเราก็คุยกัน กลายเป็นว่ามันไม่ใช่แค่จุดแค่ตรงนี้ เขาก็ยังไปว่าตามตรงโน้นตรงนี้อีก แต่ทุกครั้งที่ว่ามันไม่ได้มีแค่เรา มีเพื่อนเข้าไปด้วย
      
       “ถามว่าอยากเคลียร์มั้ย ที่พูดตรงนี้ เพราะว่าเรายังไม่เคยเจอกันอีกเลยหลังจากนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าเราไปตรงไหนเขาก็จะออกไป แต่ถ้าเจอก็อยากถามว่าเขาว่า ถ้า พี่เกลียดหนู หรือว่าไม่ชอบหนูเกลียดแค่ตัวหนูได้ไหม อย่าไปพาดพิงถึงคนอื่น อย่าไปพาดพิงถึงคนที่เขาดี เพราะว่าเขาไม่ได้มาผิดกับเราด้วย แตนไม่ได้ผิดอะไรกับเราเลย สิ่งที่เราทำผิด เราทำร้ายตัวเอง ทำร้ายครอบครัว ไม่ได้ทำร้ายคนอื่น แล้วทำไมคนอื่นเขาจะต้องมารับกับสิ่งที่เราทำผิดด้วย”
      
       “ตอนนี้ก็คงจะเกลียดมากขึ้น กลายเป็นโมโหว่าบางงานเขาเลือกเรา ก็อยากให้ทำใจให้ปกติ ทำใจให้สบาย ถ้าหากว่าหนูเป็นสิ่งที่เป็นบุคคลที่มันน่ารำคาญหรือว่าต่ำต้อยสำหรับพี่ก็มองข้ามมันไป อย่าเอาไปเป็นประเด็นที่สำคัญในชีวิตจนทำให้พี่ต้องเสียงานไปด้วย หรือว่าต้องมานั่งหงุดหงิดอยู่กับการที่มีหนูอยู่ ณ ตรงนั้น”
      
       อยากให้อีกฝ่ายจบ ถ้าไม่จบยินดีขอขมา ฉะเป็นคนเจริญแล้วควรแยกแยะ
       “ไม่นะ ทุกคนก็ดี ให้โอกาสก็จะมีแต่คำปลอบใจ ทุกอย่าง เข้ามากอดแล้วบอกว่าโอเคนะ ชีวิตดีแล้ว ทุกคนจะเป็นอย่างนี้ เราไม่ได้คิดมากเพราะว่าตัวเรา เรารู้ดีอยู่แล้วว่าเราห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้มานานแล้ว ไม่ได้มีเข้าไปสัมผัสหรือวุ่นวายอะไรเลย เรารู้ตัวเราดี แล้วทุกคนก็จริงใจ เจอกันบ่อย ๆ ก็จะมีโทร.คุยกัน มันไม่มีที่จะแบบได้ยินลับหลังหรืออะไรแบบนี้ไง”
      
       “งานตอนนี้ก็ดีค่ะ มีเข้ามาเรื่อย ๆ มีละครเข้ามาเยอะ ๆ ก็สนุกกับงาน ไม่อยากที่จะมาอะไร แต่ที่พูดตรงนี้คืออยากจบ อยากให้มันจบไปเพียงแต่อยากให้พี่เขารู้ว่าหยุดเหตุการณ์อย่างนี้เถอะ ยุติเถอะ อยากให้มันจบ แต่ถ้าพี่ไม่พอใจสำหรับตัวหนูจริง ๆ ยินดีที่จะกราบขอขมาเป็นการส่วนตัวนะคะ ต่อหน้าสื่อก็ได้ ไม่ได้ต้องการออกมาประจานว่าเป็นคนไม่ให้โอกาสคนหรืออะไร เขามีสิทธิ์เกลียดเรา เขามีสิทธิ์โกรธเรา มีสิทธิ์ไม่ชอบเรา เพราะเราผิดจริง ๆ แต่อยากให้แยกแยะออกว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี พี่ก็บอกว่าพี่เป็นคนสูง พี่เจริญแล้วพี่ก็น่าจะแยกแยะออกนะคะว่าสิ่งไหนควรเกลียด สิ่งไหนไม่ควรเกลียด” 

credit http://www.siamupdate.com/news-178183

No comments:

Post a Comment