Saturday, July 30, 2016

เปลี่ยนไปมาก!!! มาดูพัฒนาการของน้องโยชิ ที่ตอนนี้เข้ามหาลัยแล้ว ล่าสุดเป็นแบบนี้ จำแทบไม่ได้เลย

loading...

 

loading...

วันนี้ผู้สื่อข่าว สยามอัพเดท ได้รับรายงานว่า หลังจาก  น้องโยชิ ฐิติกร หรือชื่อแบบผู้หญิง โยชิ ชญาดา กิจอมรกุล ดังเป็นพลุแตกเมื่อมีคนโพสความสวยน่ารัก ขนาดที่หญิงแท้ยังต้องอาย ตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียน มัธยมวัดธาตุทอง  มาวันนี้เมื่อน้องโยชิก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ก็ยิ่งกลายเป็นสาวเต็มตัวอย่างเต็มที่ งานนี้ถ้าไม่รู้จักแล้วเจอนี่แยกไม่ออกจริงๆ ว่าเป็นหญิงแท้หรือหญิงเทียม ถ้าได้เห็นรูปของเธอแล้วจะรู้เลยว่า เราจำแทบไม่ได้ สวยจนชะนีกรี๊ดร้องลั่น กันเลยทีเดียว
loading...

credit  http://www.siamupdate.com/news-177279

Tuesday, July 26, 2016

แทบช็อก!! แต่งงานเดือนเดียว ฆ่าเมียทิ้ง เผยสาเหตุแทบรับไม่ได้ ผู้ชายแบบนี้ควรระวังให้มาก !?





 เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. พ.ต.ท.ประวัติ พลสุวรรณ สว.สืบสวนสภ.นาทม จ.นครพนม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งไล่ล่าตัวนายศรายุทธ บุญยะพันธ์ อายุ 23 ปี อดีตทหารเกณฑ์ หลังใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงน.ส.ศกุนตลา แก่นนาคำ ภรรยาสาววัย 19 ปี อาชีพค้าขายน้ำมันปลีกย่อย เสียชีวิตคาพื้นที่ ต.หนองซน อ.นาทม สาเหตุสามีขอเงิน 40 บาทไปซื้อกับข้าว ก่อนฉุนจัดกลับมาชักปืนยิงใส่ เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น

พ.ต.ท.ประวัติกล่าวถึงความคืบหน้าว่า ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวติดพื้นเลขที่ 26 บ.แสนสำราญ หมู่ 10 ภายในห้องนอนบ้านหลังดังกล่าว พบศพน.ส.ศกุนตลา หรือน้องเฟิร์น ภรรยานายศรายุทธภายในห้องนอน สภาพศพสวมชุดนอนสีชมพู ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ไทยประดิษฐ์ที่บริเวณขมับ 1 นัด นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตคาที่ พบปลอกกระสุน 1 นัดจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ประสานแพทย์เวรร.พ.นาทมมาร่วมชันสูตร

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายศรายุทธ ผู้ก่อเหตุได้ขอเงินภรรยา ซึ่งเพิ่งแต่งงานกันได้เดียวเดียว ไปซื้อกับข้าว 40 บาท ภรรยาจึงเกิดความไม่พอใจ จึงปากระเป๋าเงินใส่หน้านายศรายุทธ ภายในกระเป๋ามีเงินจำนวน 5 พันบาท ผู้ก่อเหตุจึงนำเอาเงินไปทั้งหมด ก่อนนำเงิน 300-400 บาทไปซื้อสุรานั่งดื่มจนมึนเมาเพื่อประชดภรรยา ขากลับบ้านเกิดทะเลามีปากเสียงกับภรรยาขั้นรุนแรง ก่อนใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงภรรยาจนถึงแก่ความตายดังกล่าว
พ.ต.ท.ประวัติกล่าวด้วยว่า หลังก่อเหตุนายศรายุทธ มือปืนที่ก่อเหตุยิงภรรยาตนเองได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือที่สาธารณะ เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา หลังได้รับการประสานจากญาติติดต่อจะนำตัวนายศรายุทธ ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวภายในวันนี้ หรือพรุ่งนี้เป็นอย่างช้า
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังเกิดเหตุได้เพียง 1 วันสื่อสังคมโลกออนไลน์ โดยเฉพาะญาติและเพื่อนน.ส.ศกุลตลา ผู้ตาย นำภาพที่เกิดเหตุและภายนายศรายุทธที่หลบหนีไปและภาพที่คู่สามีภรรยาเพิ่ง แต่งงานใหม่ได้แค่ 1 เดือน แชร์ในโลกออนไลน์รุมประฌามสาปแช่ง เพราะเป็นคดีอุกอาจเหตุสะเทือนขวัญ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป


..........................................................................................................................................................
credit http://www.siamupdate.com/news-183154

แทบช็อก!! ลูกแค่กรน หายใจไม่สะดวก พอพาไปตรวจถึงกับตกใจหนัก นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ คนมีเด็กควรระวังให้มาก เจอแบบนี้





 วันนี้สยามอัพเดทได้เห็นโพสต์ของคุณ Kittipong P-Family ซึ่งอันตรายมากเมื่อเห็นคนมีลูก แล้วเกิดอาการแบบนี้ ควรใส่ใจและไปให้หมอตรวจโดยเร็ว ก่อนจะสายเกินไป
เจ็บที่สุดในชีวิต ลูกตอนนี้ แล้ว
ลูกเอ้ย
ป๊า กะแม่ ทรมานแทน เลย
ก้อนเบ่อเริ่ม "ต่อม อดีนอยน์" 3-4 ต่อม
ลูกหลานใคร นอน หายใจไม่สะดวก นอนกรนดัง พาไปเช็คครับ อย่านิ่งนอนใจ
ถ้าหมอเด็กบอกว่า โตไปเด็กจะดีขึ้น
หายได้เอง
ไม่หายนะครับ ต้องพบแพทย์เฉพาะทาง ครับ
เคสนี้ ผ่าตัด ถึงจะหาย
กลับมา หายใจ ได้ปกติขึ้น
เฮ้อ....ทรมานแทนขนาดไม่ได้ผ่าเอง
ถ้า ทานข้าวอยู่ผ่านไปก่อน นะครับ
..................................................................................................................................................

credit  http://www.siamupdate.com/news-183158

ช็อกทั้งโรงเรียน ! นักเรียน โรงเรียนศึกษานารี สอบติดแอดมิดชั่น 59 ยกห้อง เผยความลับแบบนี้ ง่ายจริงๆ!?





ต้อง ยอมรับเลยว่าเด็กสมัยนี้นับวันจะยิ่งเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ตัวอย่างมีให้เห็นกับเหล่า เด็กนักเรียกหญิงของโรงเรียนศึกษานารีห้องนี้ กับการรวมตัวกันเก่ง สอบติดแอดมิดชั่น 59 กันเรียกได้ว่า ยกห้อง เลยทีเดียว เก่งแบบนี้อนาคตของชาติมีหวังสดใสขึ้นเรื่อย ๆ เลยจริง ๆ นักเรียนหญิง โรงเรียนศึกษานารี สอบติดแอดมิดชั่น 59 ยกห้อง จะเก่งกันใหญ่แล้วนะเนี่ย…

.............................................................................................................................................................!
credit http://www.siamupdate.com/news-183165

Sunday, July 24, 2016

โจรใช้หัวเข่าจับกดลงน้ำสาวรองเท้าแดง มือสาวกำสิ่งนี้ไว้แน่น ก่อนสิ้นใจ โครตสะเทือนขวัญ !?


ตำรวจวังทอง จับกุมโจรถีบรถจักรยานยนต์สาวรองเท้าแดง หลังเข้าซอยเปลี่ยว ฆ่าทิ้งด้วยการใช้หัวเข่ากดให้จมน้ำตาย ก่อนชิงทรัพย์หนีไป
(12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรวังทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน นายวิโรจน์ เกิดช้าง อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุถีบรถจักรยานยนต์ของ นางเกษร อายุ 31 ปี บริเวณถนนเลี่ยงเมือง หลักกิโลเมตรที่ 34 หมู่ 6 ตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง ซึ่งเป็นสถานที่เปลี่ยวและมืด ก่อนลงมือฆ่าด้วยการกดจมน้ำ และนำทรัพย์สินหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดของวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา
เบื้องต้น นายสมควร อายุ 32 ปี สามีของผู้ตาย พร้อมด้วยทหารลาดตระเวน กองพลทหาราบที่ 4 ได้ช่วยกันค้นหา หลังจากสงสัยว่าภรรยาจะเกิดอุบัติเหตุ จนกระทั่งมาพบว่าภรรยาของตนเองเสียชีวิตอยู่ในน้ำ ซึ่งผิดปกติและสงสัยว่าอาจจะถูกฆาตกรรมเนื่องจากทรัพยสินมีค่าหายไป
และจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดในช่วงกลางวันของวันที่ 10 มิถุนายน อาสาสมัครตำรวจ ได้ลงไปงมค้นหาหลักฐานในน้ำ พบโทรศัพท์มือสีดำหนึ่งเครื่องจมอยู่ในน้ำ จึงนำไปสู่การติดตามตัวเจ้าของและจับกุมผู้กระทำได้ในที่สุด
นายวิโรจน์ ให้การรับสารภาพรับว่า โทรศัพท์มือถือและหมายเลขโทรศัพท์ที่อยู่ในน้ำใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุเป็น ของตนเอง เช่นเดียวกับของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมมา จากคำให้การของผู้ต้องหาที่นำไปทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ ว่าทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของผู้ตายที่อยู่ในกระเป๋าสะพายสีม่วง
 
 
นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า ในคืนที่เกิดเหตุระหว่างที่ตนเองเดินทางกลับมาจากจังหวัดกำแพงเพชร ได้ดื่มเบียร์ไป 2 กระป๋อง เมื่อมาถึงบริเวณทางแยกวัดสกัดน้ำมัน เห็นผู้ตายสะพายกระเป๋าสีม่วง คาดว่าน่าจะมีเงินจำนวนมากอยู่ในกระเป๋าจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามไปแบบ ช้าๆ
เมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดที่มืดและเปลี่ยวไม่มีรถตามมาหรือสวนมา จึงใช้หัวเข่าดันรถจักรยายนต์ของผู้ตายให้ล้มลง ในช่วงแรกตนเองได้ขับเลยไปก่อน กระทั่งผู้ตายลุกขึ้นมานั่งค่อม รถจักรยานยนต์อยู่ริมถนนในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บ จึงเข้าไปแย่งกระเป๋า แต่ผู้ตายไม่ยอม จึงลากลงไปในน้ำ
ผู้ต้องหาให้การอีกว่า ผู้ตายคิดว่าตนจะข่มขืน แต่ตนเองไม่ได้พูดอะไรมาก จึงจับผู้ตายกดน้ำ ด้วยการใช้เข่ากดลงในน้ำ โดยมือข้างหนึ่งของผู้ตายจับกิ่งไม้รั้งเอาไว้แน่น กระทั่งแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้วจึงหยิบเอากระเป๋าเงินแล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีไป และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังทอง เปิดเผยว่าคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ ประชาชนจังหวัดพิษณุโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โทษสูงสุดของคดีลักษณะนี้คือประหารชีวิต ขณะเดียวกันในเฟซบุ๊กตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้เผยแพร่ภาพผลการจับกุมคดีดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนทุกคน ระมัดระวังการใช้เส้นทางมืดและเปลี่ยวในเวลากลางคืนเพื่อป้องกันอันตรายที่ อาจจะเกิดขึ้น
credit http://www.siamupdate.com/news-183266

ใจสลายทั้งวงการ !! “ลูกนก” เจ้าของเพลง “คุณลำไย” ถูกมองว่าชีวิตตกอับ ล่าสุดทุกอย่างเป็นแบบนี้แล้ว !?

   ห่างหายไปนานสำหรับนักร้องลูกทุ่ง “ลูกนก สุภาพร” เจ้าของเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ติดหูกันทั่วบ้านทั่วเมือง “คุณลำไย” ล่าสุดถูกเม้าส์ว่าชีวิตตกอับ จากกระแสข่าวลือ ทำให้เจ้าตัวได้มีโอกาสมานั่งเคลียร์ในรายการโชว์แตกฟอง ระบุว่า
หายเงียบไปเลยช่วงนี้ทำอะไรอยู่ ?
 
“ช่วง นี้ก็อยู่บ้านเลี้ยงลูก แต่ก็ยังรับงานบ้าง ถ้ามีเจ้าภาพจ้าง กำลังมองหานักแต่งเพลง หาคนรู้จัก คิดว่าเราจะต้องทำยังไงดีกับเพลง หายไปเป็น 10 ปีแล้วที่ไม่มีผลงานเพลง ตั้งแต่มีลูกก็หยุดไปเลย แล้วลูกก็ยังเล็กอยู่ มันก็เลยมีความรู้สึกว่าอยากจะให้เต็มที่ก่อน เพราะว่านกเลี้ยงลูกคนเดียว 24 ชั่วโมง จริงๆ อยากทำอะไรหลายๆ อย่างมากแต่มันทำไม่ได้”
 
แล้วที่ผ่านมามีงานติดต่อเข้ามาบ้างมั้ย ?
 
“ก็ ต้องยอมรับเนอะว่าเราไม่มีผลงาน ก็เลยห่างๆ แต่ยังได้ใบบุญ ลำไย ก็ยังมีบ้าง พอได้กินพอได้ใช้ ถ้ากลับมาเราก็ต้องรับว่าอาจจะไม่เมื่อก่อน เรื่องนี้นกยอมรับ อยากทำงานเพลงมาก คิดถึง ออกไปส่งเขาก็ยังทักทาย ลำไยเมื่อไหร่จะออกเพลงอีก ชีวิตช่วงนี้ให้กับลูกเป็นหลักแล้วเอาข้าวไรเบอร์รี่ที่บ้านมาขายบ้าง ทำไม่เป็นธุรกิจมาก ส่วนใหญ่จะแจกมากกว่า
หลายคนมองว่าเราตกอับ ?
 
“ขา ลงมันลงอยู่แล้ว นกไม่โกรธใครที่จะพูด มันอยู่ที่แง่มองของคนพูด นกคิดว่าตัวเองยังเหมือนเดิม ส่วนการที่ได้ ลำไย มาถือว่ากำไรชีวิต เพราะทุกวันนี้ความสบายอยู่ตรงไหนหาไม่เจอ แต่ความลำบากเจอทุกวัน เจอตลอด ชีวิตทุกวันนี้ก็ยังลำบาก เมื่อก่อนลำบากแบบปากกัดตีนถีบ ทำงานได้วันละ 100 ไม่โกรธถ้าใครจะพูดยังไง เพราะชีวิตนกไม่เคยสบายเลย เราฝึกสมาธิ และปฏิบัติธรรม ไม่ยึดติด อย่างกับคำว่า คุณลำไย นกก็มีหน้าที่แค่ขึ้นร้องเพลง พออยู่บ้านก็คืออีนก ไอ้นก ธรรมดา เป็นแม่ เป็นคนใช้ในบ้าน”
 
ลูกนกผ่านจุดนี้มาได้อย่างไร ?
 
“ชีวิต นกลำบากเป็นสาวโรงงาน ทำงานเย็บผ้าตั้งแต่ 8 โมงยันตี 5 อีกวันถึงจะได้ 100 บาท นี่คือเรื่องจริง เข้ากรุงเทพใหม่ๆ ได้เดือนละ 600 บาท เราไม่มีอะไรจะเสียเพราะนกเริ่มจากติดลบศูนย์ จากเด็กที่อยู่ท้ายแถว แต่วันหนึ่งได้มายืนอยู่ข้างหน้าช่วงๆ หนึ่ง ถึงแม้มันจะสั้น แต่ก็ยังภูมิใจว่าฉันทำได้ รู้สึกเป็นกำไรชีวิต คนเราเกิดมาไม่เท่ากัน มันไม่รู้สึกอะไรแล้วถ้าคนจะพูดว่าตกอับ เพราะมันขึ้นสูงและลงสุดแล้วเป็นธรรมดา”
 
แสดงว่าครอบครัวมีส่วนสำคัญมาก ?
 
“สำคัญ มากจริงๆ เมื่อก่อนตอนไม่มีรถก็ขับรถไปบ้าน ไปนั้นไปนี่ กลับบ้านตี 1 ตี 2 ตี 3 หาเงินส่งให้พ่อให้แม่ตอนนั้นก็จบแค่นั้น พอมีครอบครัว มีแฟนไม่เท่าไหร่ แต่พอมีลูกทุกอย่างจบ จบที่ลูกเลย ไม่มีอะไรในโลกที่เป็นครอบครัว ถึงจะมีเงิน 100 ล้าน แต่ก็มีความสุขแบบนี้ก็ได้
credit http://www.siamupdate.com/news-183275

แทบช็อก!! ลูกศิษย์ขอขืนใจครู ไม่ให้จะไปขืนใจลูกสาว พอเสร็จกลับทำแบบนี้ ครูจำจนตาย !?

อดีตลูกศิษย์หนุ่ม บุกใช้มีดจี้คอ ข่มขืนครูสาวใหญ่บ้านใกล้กัน พร้อมถ่ายรูปขู่ อ้าง ไม่มีสติ เมาเหล้า-ยาบ้า ผู้เสียหายเป็นครูสมัย ม.1 ด้านครูเผย ไม่ต้องการให้เรื่องเงียบ กลัวศิษย์เนรคุณจะย่ามใจ หวั่นลูกสาวไม่ปลอดภัย
นางปุ๋ย เล่าเหตุการณ์ว่า หัวค่ำที่ผ่านมามีลูกศิษย์ผู้หญิงประมาณ 10 คน มาขอจัดงานวันเกิดที่บ้าน และเลิกประมาณ 22.00 น. จากนั้นปิดประตูบ้านนอนโดยให้ลูกสาวอายุ 10 ปี นอนอยู่ในห้องแต่เปิดประตูไว้ โดยตัวเองนอนอยู่ที่โซฟาในห้องโถง ส่วนสามีไปทำงานที่ กทม. ต่อมาเวลา 03.30 น. ขณะที่นอนหลับมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาอยู่ที่ลำคอ จึงลืมตาขึ้นเห็นชายคนร้ายสวมหมวกแก๊ป และผ้าปิดบังใบหน้าใช้มือขวาปิดปากไม่ให้ส่งเสียง มือซ้ายใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต จ่ออยู่ที่คอ จึงตั้งสติพูดขึ้นว่าต้องการอะไร อย่าฆ่ากันเลย ชายคนร้ายพูดว่า “ข่อย ไม่ได้มาปล้นจี้ จะมาขอร่วมเพศ ถ้ายอมข่อยจะไม่ทำร้าย ไม่ฆ่าเจ้า ตั้งใจจะมาข่มขืนอย่างเดียว ไม่งั้นจะฆ่าเจ้า และจะไปข่มขืนลูกสาวเจ้าในห้องแทน”
จากนั้น นางปุ๋ย เล่าต่อว่า จึงพยายามควบคุมสติตัดสินใจถามว่าถ้าให้แล้วต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรลูกสาว ก่อนที่คนร้ายจะลงมือกระทำชำเรา โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนใช้แท็บเล็ตถ่ายภาพพร้อมขู่ว่าหากแจ้งความหรือบอกใคร จะนำภาพลงในโซเชียลให้อับอาย อีกทั้งขโมยเงินไป 400 บาท แล้วหลบหนีไป จึงรีบตามไปปิดประตูแล้วโทรศัพท์หาพี่สาวคนสนิทซึ่งมีสามีเป็น ประธาน กต.ตร. ช่วยประสานแจ้งตำรวจ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมายังที่เกิดเหตุ รับแจ้งข้อมูลและสงสัยว่าคนร้ายจะเป็น นายสัตยา ภูสง่า อายุ 24 ปี ซึ่งมีบ้านห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่จึงไปตามตัวถึงบ้าน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เมื่อคืนเมาสุราและเสพยาบ้าครึ่งเม็ด จึงไม่มีสติ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผู้หญิงที่ข่มขืนเคยเป็นครูสมัยเรียน ม.1 และเคยถูกจับคดีเสพยาเสพติดปี 56 ปัจจุบันมีอาชีพซ่อมรถจักรยานยนต์มือสองไว้ขาย ส่วนภรรยาตั้งครรภ์ และเคยเป็นลูกศิษย์เช่นกัน
ทั้งนี้ นางปุ๋ย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ไม่ยอมปิดบังเรื่องให้เงียบเพราะเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ไม่ได้ทำผิด หากปล่อยเรื่องเงียบกลัวว่าลูกศิษย์เนรคุณจะย่ามใจ อีกทั้งลูกสาวจะไม่ปลอดภัย และเพื่อเป็นตัวอย่างของสังคม และรู้สึกเสียใจมากที่มีลูกศิษย์แบบนี้ จากนั้น เจ้าหน้าที่นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
credit http://www.siamupdate.com/news-183287


แทบช็อก!! นักท่องเที่ยวหญิงหน้าตาดีมาไทย 3 วัน ถูกใจชายไทยพาขึ้นห้อง ถูกจัดหนักแบบนี้ แทบน้ำตาไหล ?

สยามอัพเดทได้รับรายงานเมื่อเวลาประมาณ เที่ยงคืนเศษ วันที่ 14 มิ.ย. มีนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติถูกทำร้ายร่างกายแล้วชิงทรัพย์ ที่ สภ.เมืองพัทยา ที่เกิดเป็นห้องพักรายวัน ในห้องที่เกิดเหตุ พบร่องรอยการต่อสู้ มีคราบเลือดติดตามผนังและพื้นห้อง ตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บเป็นนักท่องเที่ยวทราบชื่อคือ MISS.URAZALIEVA FERUZA อายุ 26 ปี สัญชาติอุซเบกิสถาน ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าปูดบวม มีคราบเลือดติดตามร่างกาย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่ในอาการตกใจและหวาดกลัว ว่าถูกชายไทยทำร้ายร่างกายแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงวิทยุสกัดจับแต่ยังไร้ร่องรอย
โดย ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เธอได้เดินทางมาพัทยาได้เพียง 3 วันเท่านั้น จึงไม่มีเพื่อน จนกระทั่งได้พบกับชายไทยที่บริเวณชายหาด ซึ่งสามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศกันได้ และทางทางมีมารยาทเรียบร้อย นิสัยดี ด้วยความไว้วางใจ จึงได้นัดกันออกมาเที่ยวที่วอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ หลังจากนั้นก็ได้พากันโดยสารจักรยานยนต์รับจ้างมาสวีทหวานกันภายในห้องเช่า ที่เกิดเหตุ
หลังจากนั้นชายคนก่อเหตุได้เผยธาตุแท้ สลัดคราบชายนิสัยดีรื้อค้นทรัพย์สินของเธอ เมื่อเข้ายื้อแย่งขัดขวาง ชายคนดังกล่าวก็ได้ทำร้ายร่างกาย ชกต่อยและเตะจนได้รับบาดเจ็บก่อนแย่งกระเป๋าแบบสะพายซึ่งภายในมีทรัพย์สิน เป็น เงินสด 2,000 บาท โทรศัพท์มือถือซัมซุงจำนวน 1 เครื่อง และเอกสารสำคัญหลายรายการ หลังเกิดเหตุจึงขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลห้องพักให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังกล่าว
ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสและตรวจสอบกล้องวงจร ปิดบริเวณที่เกิดเหตุหารูปพรรณสัณฐานของคนร้าย เพื่อติดตามมารับโทษดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
credit http://www.siamupdate.com/news-183290

สุดสลด!! หนูน้อยร่ำไห้กอดศพแม่ตายทั้งกลมไม่ปล่อย รู้สาเหตุแล้วแทบร้องไห้ตาม ไม่น่าเป็นแบบนี้เลย (ชมคลิป)

เรื่องน่าสลดเว็บไซต์ มาเลเซียไดเจสท์ รายงานว่า เฟสบุ๊คผู้ใช้ ชาร์ริฟาห์ อาชมา เคชิก โพสต์คลิปเผยแพร่ ขณะหลายชายของเธอต้องประสบกับความเจ็บปวดที่สุดในชีวิต เมื่อเด็กชายดาร์วิช ต้องสูญเสียผู้เป็นแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ ภาพเด็กชายสวมกอดแม่ผู้เป็นที่รักที่บัดนี้นอนอยู่ใต้ผ้าคลุมร่างอันไร้ วิญญาณและปฏิเสธที่จะผละตัวจากแม่ไปทำให้มีผู้แชร์คลิปนี้ไปแล้วกว่า 840,000 คน
ที่เคราะห์ร้ายไปกว่านั้นเด็กชายดาร์วิชยังต้องสูญเสีย น้องวัย 6 เดือนในท้องของแม่ด้วยอีกราย หลังจากเธอปวดศีรษะและลำคออย่างรุนแรงก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสุลตานาห์ บาฮิยา อลอสตาร์ ก่อนแพทย์จะวินิจฉัยว่าเธอมีอาการเส้นเลือดในสมองแตกและเลือดได้กระจายไปตาม สมอง ต้องได้รับการผ่าตัดฉุกเฉินโดยด่วน แต่หลังการผ่าตัดแม่ของเด็กชายดาร์วิชกลับมีอาการทรุดหนักจนเสียชีวิตในเวลา ต่อมา
ชาวเน็ตหลายรายต่างแสดงความเสียใจและเห็นใจหนูน้อยดาร์วิช ทั้งยังเรียกร้องให้คนแสดงความรักต่อกันก่อนจะสายเกินไป เพราะชีวิตคนเราช่างสั้นนัก
credit http://www.siamupdate.com/news-183292

ช็อกทั้งกองร้อย !! สาวไปเยี่ยมคนรักที่ค่าย แต่กลับต้องเจอแฟนทำแบบนี้กับเพื่อน !?

 ไม่ ได้เลิศหรูอลังการแต่เต็มไปด้วยความจริงใจ เมื่อทหารใหม่รายนี้ขอร้องครูฝึกและเพื่อนทหารให้ช่วยเหลือ ด้วยการหลอกแฟนสาวที่มาเยี่ยมในค่ายให้เห็นว่าเป็นลมจนโดนหามออกไป ทำเอาแฟนสาวถึงกับรับไม่ได้ ก่อนที่จะแอบกลับมาทำให้สิ่งที่ใครได้เห็นก็ต้องอดยิ้มไม่ได้
credit http://www.siamupdate.com/news-183293

สุดสลด!! พ่อวัย 73 ฆ่าลูกเพราะขายที่ดินได้ 100 ล้าน แต่เมื่อลูกพูดแบบนี้กับพ่อ ถึงกับฆ่าทิ้ง มรดกเลือดจริงๆ


รวบแล้ว 2 ผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่าเสี่ยนักเรียนนอก เป็นอดีตนายทหารยศ พ.อ. กับ ร.อ. รับค่าจ้าง 2 ล้านจากผู้จ้างวาน เหตุขอส่วนแบ่ง 7 ล้านบาทจากการขายที่ดิน 100 ล้าน เผยพ่อหวั่นลูกชิงลงมือก่อน จ้างอุ้มจากโรงพิมพ์ไปยิงทิ้งที่กาฬสินธุ์...
จากคดีที่ นายภาสพล รัตนตยาธิคุณ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/2 ซ.สุขุมวิท 65 ต.พระโขนง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตในร่องน้ำ ช่วงกลัด กม.ที่ 102–103 ถ.ถีนานนท์ ระหว่าง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์–จ.สกลนคร บนเทือกเขาภูพาน บริเวณทางโค้งก่อนเข้าผาเสวย ท้องที่บ้านแก้งกะอาม ต.ผาเสวย อ.สมเด็จ เมื่อ 8 โมงเช้า วันที่ 1 พ.ค. ตำรวจพุ่งปมความขัดแย้ง จากการขายที่ดินมูลค่า 100 ล้าน ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ 3 คน โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดีด้วยตัวเอง ตามข่าวที่ติดตามนำเสนอมาต่อเนื่อง (มรดกเลือด100ล. ลวงอุ้มฆ่า เสี่ยหนุ่มนร.นอก)
ล่าสุด ตำรวจชุดทำงานสามารถปิดคดีดังกล่าวลงจนได้ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 ราย เป็นอดีตนายทหารยศพันเอกกับร้อยเอก สังกัดกองทัพบก พร้อมขอศาลออกหมายจับพ่อ เป็นผู้จ้างวานฆ่าลูกชายตัวเอง เหตุผู้ตายขอเงินส่วนแบ่ง 7 ล้าน จากการขายที่ดิน 100 ล้าน
ความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อเวลา 13.50 น.วันที่ 13 มิ.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยนายวินัย วิทยานุกูล ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ. 4 พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง พ.ต.อ.โสภณ วารี รอง ผบก.กาฬสินธุ์ ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวน ภ.4 และสภ.สมเด็จ พ.ต.ท.บุญจันทร์ สังข์ทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สมเด็จ พ.ต.ท.รพี สีพันนา รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี ได้นำของกลางที่ตรวจยึดได้ในคดีนี้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมชัยสุนทร ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ถึงการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 2 ราย
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ถูกนำตัวมาแถลงข่าวคือ นายมนูญ หรือ สิทธิ์ฐิคมน์ ภัทรเมธาพร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/336 ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เป็นอดีตนายทหารบกยศพันเอก ผู้ต้องหาอีกคนคือ นายกิตติภพ หรือ เฉลา เครือไย อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/203 ม.3 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยทั้ง 2 คน ถูกชุดสืบสวนจับกุมได้เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่บริเวณปั๊มแก๊สเอ็นจีวี ริมถนนเพชรเกษม ม.7 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
ของกลางที่ตรวจอายัดประกอบด้วย รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน อัลเมร่า สีแดง ขณะก่อเหตุรถเป็นสีขาว แต่หลังก่อเหตุได้ถูกพ่นสีแดงทับ หมายเลขทะเบียน 1กร 7819 กทม. เสื้อเครื่องแบบข้าราชการทหารบก ติดเครื่องหมายยศ พันเอก(พิเศษ) ติดป้ายชื่อ "สิทธิ์ฐิคมน์ ภัทรเมธาพร" 1 ชุด เสื้อเครื่องแบบข้าราชการทหารบกยศ พันตรี ติดป้ายชื่อ กิตติภพ เครือไย 1 ชุด บัตรประจำตัวข้าราชการทหารบก (ปลอม) ระบุชื่อ พ.ต.กิตติภพ เครือไย 1 ใบ บัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน ปปส. (ปลอม) ระบุชื่อ พ.อ.มนูญ ภัทรเมธาพร
ส่วนพฤติการณ์แห่งคดี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อเช้าวันที่ 1 พ.ค. เวลาประมาณ 07.30 น. มีผู้พบศพ นายภาสพล หรือ ตุ้ม รัตนตยาธิคุณ อายุ 49 ปี ถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณที่เกิดเหตุ ต่อมา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรภาค 4 และ สภ.สมเด็จ สามารถวางแผนจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ โดยที่เหลืออีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม คาดว่ายังอยู่ในพื้นที่ประเทศไทย
นอกจากนี้ ตำรวจได้ขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับ นายวิรัช หรือ กอง รัตนตยาธิคุณ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 555 ซอย ส.ธรณินทร์ 5 ต.สามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. บิดาของผู้ตาย ในข้อหาเป็นผู้จ้างวานฆ่า ซึ่งจะได้ตัวในอีกไม่นาน
ทางด้าน พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.กาฬสินธุ์ เผยถึงแผนอุ้มฆ่านายภาสพล ว่า เกิดจากความขัดแย้งเรื่องการขายที่ดินมูลค่า กว่า 100 ล้านบาท ของพ่อผู้ตาย ซึ่งหลังจากขายที่ดินได้แล้ว ผู้ตายมาขอส่วนแบ่งจำนวน 7 ล้านบาทจากพ่อ นอกจากนั้น ยังพบว่าผู้ตายได้ไปซื้ออาวุธปืนพกสั้น ซุกซ่อนไว้ที่บ้านอีก 2 กระบอก ทางสืบสวนทราบว่าพ่อผู้ตายเกรงว่า ลูกจะใช้อาวุธปืนที่แอบซื้อไว้ลงมือกับพ่อ ผู้เป็นพ่อจึงติดต่อกับทีมฆ่า ในราคา 2 ล้านบาท โดยจ่ายเงินก่อน เมื่อวันที่ 29 เม.ย. จำนวน 1.5 ล้านบาท
"เมื่อได้รับเงินแล้ว ทีมฆ่าสวมใส่ชุดทหารเข้าไปอุ้มเอาตัวผู้ตายออกไปจากโรงพิมพ์ที่ กทม. โดยใช้รถเก๋งของกลางคันที่ตรวจยึดได้ ขณะนั้นเป็นสีขาว แต่หลังก่อเหตุแล้ว กลุ่มคนร้ายได้พ่นสีแดงทับปกปิด ขับออกจากโรงพิมพ์ ใช้เส้นทาง กทม. ไป จ.ฉะเชิงเทรา โดยแวะพักค้างคืนที่แปดริ้วในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในจุดนี้กลุ่มคนร้ายได้นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินจำนวน 1 หมื่นบาท โดยมีมือสังหารตามมาสมทบที่ จ.ฉะเชิงเทรา ครบ 5 คน และหนึ่งในคนร้าย ได้ย้อนกลับเอาเงินจำนวน 5 แสนบาท จากพ่อผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้จ้างวาน จนครบ 2 ล้านบาท ตามที่ตกลงกัน"
กระทั่งกลุ่มคนร้ายได้นำตัวผู้ตายขึ้นรถของกลาง วิ่งไปตาม ถ.มิตรภาพ ผ่าน จ.นครราชสีมา เข้ากาฬสินธุ์ โดยเหตุที่ไปใช้จุดในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากหนึ่งในทีมฆ่าเป็นคนอีสาน และมีภรรยาในพื้นที่ อ.สมเด็จ จึงทำให้ทราบว่า ผาเสวย คือจุดสังหาร โดยช่วงเวลาประมาณ ตี 2–ตี 3 ของวันที่ 1 พ.ค. ขณะที่รถวิ่งออกจาก อ.สมเด็จ ขึ้นเทือกเขาภูพาน มุ่งหน้าไปทาง จ.สกลนคร ก่อนถึงผาเสวยประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นทางโค้ง ผู้ตายเกิดปวดปัสสาวะ จึงขอให้จอดรถเพื่อลงไปข้างทาง จังหวะที่ผู้ตายยืนปัสสาวะอยู่นั้น มือสังหารได้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ท้ายทอยผู้ตายจนล้มคว่ำ คาดว่าจากนั้นใช้เท้าถีบร่างผู้ตายลงไปในร่องทางน้ำลึก คดีนี้ยังมีผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 3 ราย ส่วนพ่อผู้ตาย ถูกตำรวจขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับแล้ว ในข้อหาเป็นผู้จ้างวานฆ่า ซึ่งหลักฐานพยานทุกอย่างอยู่ในสำนวน
จากนั้นหลังแถลงข่าวเสร็จ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก. พ.ต.ท.บุญจันทร์ สังข์ทอง รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.รพี สีพันนา รอง สว.(สอบสวน) สภ.สมเด็จ เจ้าของคดี ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมรถยนต์ของกลาง ไปทำแผนที่บริเวณเทือกเขาภูพาน ระหว่าง กม.ที่ 102–103 ท้องที่บ้านแก้งกะอาม ต.ผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กล่าวเพียงว่าได้ให้การตำรวจไว้หมดแล้ว ไม่ขอพูดอะไร.
credit http://www.siamupdate.com/news-183294


บร๊ะเจ้า!! จนท.จู่โจมอ่างดังย่านรัชดา เข้าไปเจอแบบนี้ กลับไปตัวเบาเลยทีเดียว เพราะแบบนี้ !?

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 มิถุนายน ที่สน.ห้วยขวาง พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. ในฐานะรรท.ผบก.น.1 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รองผบก.น.1 พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รองผบก.น.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ห้วยขวาง เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่เทศกิจกว่า 50 นาย ร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ยาเสพติด การพนันต่างๆ และความผิดเกี่ยวกับกฎหมายสถานบริการ พร้อมประชุมกับผู้ประกอบการสถานบริการในพื้นที่สน.ห้วยขวาง จากนั้นจึงสุ่มตรวจสถานบริการ เดอะลอร์ด ถนนรัชดาภิเษก ซอย7 และเอมมานูเอล ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง
 พล.ต.ต. สมพงษ์ เปิดเผยว่า วันนี้มาปล่อยแถวและประชุม ตรวจตรานโยบายที่ทางบช.น. มีคำสั่งให้ดูแลเหตุอาชญากรรม ยาเสพติด การพนันต่างๆ เนื่องจากอยู่ในช่วงแข่งขันฟุตบอลยูโร สถานบันเทิงต่างๆ ไม่ให้มีเยาวชน และต่างด้าว มาให้บริการ พร้อมทำความเข้าใจกับทางผู้ประกอบการไม่ละเมิดกฎหมาย เบื้องต้นจากการตรวจสถานบริการทั้งหมด พบว่ามีใบอนุญาตถูกต้อง ไม่พบผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และแรงงานต่างด้าวให้บริการ ขณะเดียวกันได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่คอยดูแลตรวจตราสถานบริการโดยรอบ หากพบมีการปล่อยละเลยจะมีโทษ ส่วนกรณีพบสติ๊กเกอร์ส่วยในนาตารี ยังไม่ได้รับรายงานเท่าที่ดูพบว่า กระดาษเป็นรูปสิงห์ กำลังดูว่าว่าสัญลักษณ์สื่อความหมายถึงอะไร ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ
 ด้าน นายวิฑูรย์ ธรรมรักษา ผู้จัดการร้านสาวน้อย คาเฟ่ กล่าวว่า ประกอบธุรกิจด้านนี้และเป็นสถานที่เปิดให้บริการเกี่ยวกับคาราโอเกะที่ใหญ่ ที่สุดในย่านห้วยขวาง ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติตามคำร้องขอของเจ้าหน้าที่มาด้วยดีโดยตลอด ปิดให้บริการในเวลา 00.00 น. ตามกำหนด ทำให้ได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้มาใช้บริการคาราโอเกะ หลังจากร้านปิดได้ย้ายไปใช้บริการที่ร้านอื่นในพื้นที่ใกล้เคียง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบสถานบริการโดยรอบพื้นที่บก.น.1 นอกเหนือจากในพื้นที่สน.ห้วยขวางด้วย เพราะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามกฎหมาย
 (Visited 57,208 times, 1 visits today)
credit http://www.siamupdate.com/news-183295

สะเทือนขวัญ!! ฆ่าโหดสาวโรงแรม วัย 32 จนท. เหลือบไปเห็นตรง จิมิ ถึงกับผงะ ทำแบบนี้กับเหยื่อโครตวิตถาร

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 มิ.ย.59 ร.ต.อ. พงษ์สวัสดิ มอมุงคุณ รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายใน บุญเหลือ อพาร์ทเม้นท์ ซ.นาจอมเทียน 14 ม.2  ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.โสฬส เอี่ยมสอาด ผกก.สภ.นาจอมเทียน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน รุดไปตรวจสอบ
 ที่เกิดเหตุ เป็นอพาร์ทเม้นท์ 2 ชั้น จำนวน 20 ห้อง ภายในห้องเลขที่ a915 ชั้นล่าง พบร่าง น.ส.ภัทรวรินทร์ แสงหมึก อายุ 32 ปี บ้านเลขที่108 หมู่ที่ 5 ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี อาชีพแม่บ้านโรงแรมแห่งหนึ่ง ในสภาพนอนหงายหน้าจมกองเลือด ถูกอาวุธมีดปลายแหลม แทงบริเวณลำคอ 3 แผล หน้าอก 2แผล หน้าท้อง 2 แผล  รวม 7 แผลและถูกมีดกรีดชายโครงด้านขวาไล้ทะลักออกมา โดยมีสากกระเบือเสียบคาอยู่กับอวัยวะเพศ ในสภาพนอนเปลือยกาย อยู่กับพื้น ห้อง
 สอบถามนาย คเณศ คลองชล อายุ 37 ปี คนดูแลอพาร์ทเมนท์ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าพนักงานโรงแรมได้มาตามหาผู้ตาย แต่เห็นห้องล็อคจากด้านหน้า จึงมาสอบถามว่าเห็นคนตายไหม? ด้วยความสงสัยจึงเดินไปดูบริเวณด้านหลังห้อง เห็นผู้ตายนอนอยู่กับพื้น จึงได้ตะโกนเรียกแต่ไม่ก็ตื่น จึงตัดสินใจงัดห้องเข้าไปดูก็พบกลายเป็นศพภายในห้องจึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ ตำรวจมาตรวจสอบ
 พ.ต.อ.โสฬส เอี่ยมสอาด ผกก.สภ.นาจอมเทียน กล่าวว่าจากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายมีแฟนชื่อ นายสมนึก จิตตรีธรรม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม 9 ต.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ซึ่งทำงานอยู่โรงแรมเดียวกัน ก่อนทะเลาะและเลิกลากันไปได้ประมาณเดือนเศษ ก่อนที่นายสมนึกจะตามมาขอคืนดีอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ถูกปฎิเสธ จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นแฟนเก่าขอคืนดี  แต่ผู้ตายไม่ยอมคืนดีด้วย จึงเกิดความโมโห ประกอบกับมีหนุ่มใหม่มาตามจีบแฟนสาว ทำให้เกิดมีอาการหึงหวง ลงมือฆ่าโหดดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าจะได้ขออนุมัติหมายจับติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
credit http://www.siamupdate.com/news-183298

สะพรึง!! มือฆ่าสาวเอาสากยัดจิมิ เผยโฉมหน้าแล้ว พร้อมเหตุที่ทำแบบนี้ฟังแล้วถึงกับผงะ !?

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. พ.ต.อ.โสฬส เอี่ยมสะอาด ผกก.สภ.นาจอมเทียน จ.ชลบุรี นำกำลังชุดสืบสวนเข้าจับกุมตัวนายสมนึก จิตตรีธรรม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 9 ต.บางคนที อ.สมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.188/2559 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คดีอาญาที่ 219/2559 ได้ที่กรุงเทพมหานคร ขณะกำลังหลบหนี หลังก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.ภัทรวรินทร์ แสงหมึก อายุ 32 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี แม่บ้านโรงแรมแห่งหนึ่งย่านนาจอมเทียน อย่างเหี้ยมโหด ด้วยการใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงทั่วร่างรวม 7 แผล และใช้สากเบือยัดอวัยวะเพศเสียชีวิตอย่างอนาถ ภายในห้องพัก A915 บุญเหลืออพาร์ตเม้นต์ หมู่ 2 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจที่ตามง้อขอคืนดีแต่ผู้หญิงไม่เล่นด้วย
พ.ต.อ.โสฬส เปิดเผยว่า หลังขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพัทยา จึงได้ส่งชุดสืบสวนกว่า 20 นาย ลงพื้นที่ตามล่า จนพบตัวนายสมนึก ที่กรุงเทพมหานคร ขณะกำลังหลบหนี อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันนี้ จะมีแถลงข่าวและนำตัวนายสมนึก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อประกอบสำนวนคดี ก่อนส่งตัวดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
credit http://www.siamupdate.com/news-183317

ล้มทั้งยืน!! แต่งงานได้คืนเดียวโดนผัวฟ้องหย่า แต่เมื่อรู้ว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นถึงกับผงะ !?

เว็บไซต์ข่าวประเทศมาลาวี “มาลาวี24”รายงานจากประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ว่า “ลินโด”หนุ่มชาวแอฟริกาใต้จากเมืองเดอร์บันฟ้องศาลขอหย่าจาก “มิลเดรด”เจ้าสาวชาวซิมบับเวหลังแต่งงานกับเธอได้เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น เหตุรับไม่ได้เห็นหน้าสดฝ่ายหญิงที่ไร้เครื่องสำอางค์ขี้เหร่เกินทนไม่ได้ เพราะตกกลางคืนพอเขาล้างหน้าออกไม่สวย เหมือนตอนแต่งหน้า

เขากล่าวกับสื่อท้องถิ่น “อิมซันซี”ว่า หากเขาเห็นเธอตอนไม่แต่งหน้าคงไม่ตกหลุมรักจนถึงขั้นแต่งงานด้วยเช่นนี้ ทั้งนี้เมื่อเขาเดินเข้ามาในห้อง หลังพิธีวิวาห์ผ่านพ้นไป เขาถึงกับตะลึง และไม่เชื่อว่าคนที่อยู่ในห้องคือเจ้าสาวที่เพิ่งแต่งงานกับเขา เพราะใบหน้าของเธอไม่เหมือนเดิม เหมือนกับว่าหน้ากากที่เคยใส่ไว้มันได้หลุดออกไปแล้ว
ด้านฝ่ายหญิงก็ออกมาตอบโต้ว่า เธอต้องการจะเจรจากับเขา และงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าบ่าวของเธอ อย่างไรก็ตามนายลินโดได้ฟ้องต่อศาลขอให้การแต่งงานของเขา และนางมิลเดรดเป็นโมฆะ นอกจากนี้ยังฟ้องเธอในข้อหาหลอกลวงอีกด้วย.
credit http://www.siamupdate.com/news-183321

เมียใจสลาย !! ผัวใจทรามอัพภาพงานแต่งใหม่ แต่ผัวต้องน็อคเมื่อเจอเมียหลวงทำแบบนี้ อดตายแน่ !?

เจ็บ แต่ จบ ! จริง ๆ สำหรับกรณีที่คุณแม่คนเก่งออกมาโพสต์ส่งท้ายให้กับคู่บ่าว-สาว(เมียน้อย) ที่ทำให้ชีวิตของเธอแทบล้มทั้งยืน
ก็เพราะผู้ชายมีความเป็น “ผัว” แต่ไม่มีความเป็น “พ่อ” ยังไงล่ะ..ทิ้งเธอและลูกสาว อ้างว่าต้องรับผิดชอบลูกในท้องของฝ่ายเมียน้อยด้วย โถ่.. พ่อคุณ
สุดท้ายลงเอยที่ภาพแต่งงานสุดชื่นมื่นกับเมียน้อย..
เจ็บจนต้องระบายออกมาแบบนี้ ล่าสุดเมียเตรียมฟ้องร้องกับกรมตำรวจ และต้องออกจากราชการแน่นอน เมียเก่า พร้อมกับทำทุกอย่างเพื่อลูก
credit http://www.siamupdate.com/news-183332

ชายเอาแบงค์ 500 จ่ายแม่ค้านึกว่าแบงค์ปลอม เมื่อไปแลกธนาคารกลับมาถึงบางอ้อ เขาพลาดโชคไปเสียแล้ว !?

ฮือ ฮา! ชายคนหนึ่งได้แบงค์ 500 แถบลอก ไปจ่ายค่าข้าวต้ม แต่แม่ค้าไม่รับจึงไปแลกที่ธนาคาร แต่เขาไม่รู้เลยว่าพลาดโชคอันยิ่งใหญ่ไปเสียแล้ว!
เรื่อง เล่า นานมาแล้ว วันที่ 20 ส.ค. ภายในตลาดสดเทศบาลเมืองระนอง เกิดเหตุฮือฮาขึ้นเมื่อนายวิจิตร แพ่งอุทัย อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216/60 หมู่ 4 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เข้ามารับประทานข้าวต้มและดื่มกาแฟ เมื่อกินเสร็จก็นำธนบัตรใบละ 500 บาท ซึ่งมีเพียงฉบับเดียวออกมาจ่ายเป็นค่าอาหารและเครื่องดื่ม แต่แม่ค้าไม่ยอมรับเงิน โดยให้เหตุผลว่าเป็นแบงก์ ปลอม เพราะด้านหน้าที่มีภาพพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แถบฟอยล์ 3 มิติ สีบอนด์เงิน ที่ภายในแถบมีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ที่ผนึกบนเนื้อกระดาษหายไปทั้งแถบ เหลือแต่เพียงแถบสีขาวเท่านั้น
นายวิจิตร กล่าวว่า ได้ รับธนบัตรใบละ 500 บาท ฉบับนี้มาจากพนักงานชาวเมียนมาที่เติมน้ำมันที่ปั๊ม ตนมีเพียงแค่ใบเดียวนี้พอจะจ่ายค่าข้าวต้ม แต่แม่ค้าไม่รับเงิน นึกว่าเป็นของปลอม เพราะใบนี้มีแต่แถบสีขาว ซึ่งผมจะไปที่ธนาคารเพื่อไปแลกเงิน หากธนาคารว่าเป็นแบงก์ปลอม ผมก็จะไม่เอาไว้ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบธนบัตรที่ธนาคาร
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที นายวิจิตรกลับมาพบกับผู้สื่อข่าว ที่หน้าตลาดสดเทศบาลเมืองระนอง พร้อมโชว์ธนบัตรใบละร้อยและใบห้าสิบบาทให้ดู โดยกล่าวว่า ธนาคารบอกว่าแบงก์ 500 ดังกล่าวเป็นของจริง และให้แลกเงินมา เพื่อนำไปจ่ายค่าอาหารที่ค้างอยู่
ผู้สื่อข่าวจึงเดิน ทางไปที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาระนอง พบกับนายภาณุวัตร ดาราวลี รองผู้จัดการธนาคารฝ่ายบริการลูกค้า ซึ่งได้รับการยืนยันว่า มีคุณลุงนำธนบัตรที่ชำรุด เนื่องจากการผิดพลาดของการพิมพ์จากธนาคารแห่งประเทศไทยจริง ไม่ใช่ธนบัตรปลอม โดยธนบัตรที่ชำรุดมีหมายเลขธนบัตรกำกับตัวเลขไทยด้านมุมขวา 7ก 8352778 และตัวเลขอาราบิกกำกับด้านล่าง 7A 8352778   และแถบฟอยล์ 3 มิติ สีบอนด์เงิน ที่ภายในแถบซึ่งมีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ที่ผนึกบนเนื้อกระดาษหายไปทั้งแถบ และน่าจะเป็นเพียงฉบับเดียวเท่านั้นจากล้านๆ ฉบับ ที่ผิดพลาดในการพิมพ์ และออกมาจำหน่ายใช้จ่ายหมุนเวียนในท้องตลาด
ซึ่งสามารถ ตรวจสอบลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์และตัวเลข  5000 มีความโปร่งแสงเป็นพิเศษ มองเห็นได้ชัดเจนทั้งสองด้านเมื่อยกส่องกับแสงสว่าง และหากธนบัตรฉบับนี้ไปอยู่ในหมู่นักสะสม จะมีราคาหลายสิบเท่าอย่างแน่นอน ซึ่งเบื้องต้น จะเก็บธนบัตรฉบับนี้ไว้ก่อน รอทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสำนักงานใหญ่จะเรียกเก็บคืนเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกต่อไป
credit http://www.siamupdate.com/news-183338

ยอมรับแล้ว !! วุ้นเส้น รับทะเลาะ ชาคริต ทำร้ายร่างกาย สาเหตุเป็นเพราะเรื่องนี้เองหรอ !?

“วุ้นเส้น” รับทะเลาะ “ชาคริต” จริง ยังไม่เลิก เผยบางช่วงเคยแยกอยู่ แจงสาเหตุเป็นเรื่องของเวลา ปัดโดนทำร้ายร่างกาย วันเกิดพาฝ่ายชายไหว้พระ พักแพลนมีลูกก่อน
 
หลังจากที่มีข่าวออกมาว่าทะเลาะกับสามีหนักถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลย สำหรับสาว “วุ้นเส้น วิริฒิพา” กับหนุ่ม “ชาคริต แย้มนาม” ล่าสุดเจอสาววุ้นเส้นในงาน “กินปูดูทะเล ครั้งที่ 14” เจ้าตัวได้ชี้แจงเรื่องทั้งหมดว่า..
 
มีทะเลาะกันบ้างค่ะ ก็เป็นช่วงประคับประครองไป ค่อย ๆ ทำให้แข็งแรงขึ้น ตอนแรกไม่คิดว่าเวลาเป็นปัญหา แต่อาจจะมีเวลาให้กันน้อยไป ไม่ได้แบบแข็งแรงขนาดนั้น ค่อย ๆ ดูกันไป อยากปรับความเข้าใจกัน เราก็ไม่ได้อยากให้เขาเปลี่ยนอะไรมาก ตอนนี้อยู่ด้วยกัน ไม่มีลงไม้ลงมือ เขาไม่เคยทำร้ายร่างกาย ปาร์ตี้ก็นานๆ ที วุ้นไม่ตกใจข่าวมาก เพราะมีเคยมีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ปรับความเข้าใจกันแล้ว คงไม่ถึงกับทุกเรื่อง เราอยู่กับปัจจุบันมากกว่า”
 “คริตเขาก็ปรับเยอะ เราคิดว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว ความรักเราสร้างกันมาแข็งแรงและยาวนาน แต่อยากทำให้มันดีขึ้น ตอนนี้อารมณ์นิ่งๆ ขึ้น ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปไม่มีทะเลาะกัน ถ้ามีเวลาก็อยากไปพักผ่อนด้วยกัน มีช่วงที่แยกกันนิ่งๆ ตอนนี้ก็ดีขึ้น มีปรึกษาเพื่อนบ้าง เพื่อนมาอยู่เป็นเพื่อนบ้าง ข่าวทำร้ายร่างกายพี่คริตก็ขำ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้เขาเข้าใจโลกมากขึ้น หลังบวชมีเหตุผลมากขึ้น อะไรก็ทำลายเขาไม่ได้ ไม่ได้เอางานมาโทษไม่มีเวลา”
 
“เรื่องมีลูกให้เราสองคนแข็งแรงมาก ๆ เดี๋ยวมีแน่นอน เรือนหอปล่อยให้เขาจัดการ เขาบอกจะเริ่มแล้ว พักเรื่องการมีน้อง งานก็ยังรับเหมือนเดิม เงินก็ปัญหาใหญ่ เราไม่อยากอยู่เฉย ๆ ช่วยเขาทำมาหากิน ขาเตียงก็ยังแข็งแรงดีค่ะ”
 
“ตอนวันเกิดเขาพาไปเที่ยวบ้าง ของขวัญตอนนี้ดูอยู่ว่าจะอยากได้อะไร เขาอยากไปเที่ยวพวกพิพิธภัณฑ์ วันนั้นพาไปวิมานเมฆ เขาแฮปปี้มาก เป็นรื่องที่เราคุยกันตั้งนานแล้วเขาไม่เคยไป ได้กล้องมาใหม่ด้วย ลงรูปหวานๆ ก็ตามรูปที่เห็น เดี๋ยวคนเข้าใจผิดก็เลยลงรูปคู่บ้าง”
credit http://www.siamupdate.com/news-183524

ช็อกสนั่นวงการ!! เมื่อ "ใหม่ ดาวิกา" เก็บเงินเตรียมขอคู่จิ้นคนนี้แต่งงาน คลิปหลักฐานชัดๆ!

ล่าสุดหลังจากมีภาพหอมแก้มกันบนเวทีคอนเสิร์ต สาวใหม่ก็ประกาศว่าจะเก็บเงินมาแต่งงานกับ คู่จิ้นอย่าง ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก พร้อมทั้งเคลียเรื่องราวยืนยันชัดเจนว่าไม่มีปัญหากับ ชมพู่ อารยา แน่นอน ขอยึดคำตอบของรุ่นพี่เป็นหลักว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน
credit http://www.siamupdate.com/news-183575

แฉไอ้หื่นด้วยคลิป !! ข่มขืนเสร็จพาเดินมาส่งบ้าน พอถึงกับทำแบบนี้อีก มีคลิปเห็นเต็มๆ !?

 เว็บไซต์ ไลฟ์ ของรัสเซียรายงานคดีสุดพิสดารที่เกิดขึ้นริมถนนชอสเซย์ ทางตะวันออกเฉียงใต้กรุงมอสโกของรัสเซีย เมื่อค่ำวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุว่า ผู้หญิงรายหนึ่งวัย 27 ปี ถูกข่มขืนกระชำเรา ขณะเดินกลับถึงบ้านอยู่แล้ว
ภาพกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านเผยภาพขณะที่ผู้ชายแปลกหน้ารูปร่างหุ่นนักกีฬา เดินเข้ามาคว้าคอผู้เสียหาย โดยผู้หญิงพยายามขัดขืน แต่สู้พลกำลังไม่ไหว ก่อนถูกลากไปสนามเด็กเล่น โดยลากผู้หญิงเข้าไปในพุ่มไม้แล้วลงมือข่มขืนจนเป็นผลสำเร็จ

 หลัง ลงมือขืนใจแล้ว ผู้ชายกลับเดินมาส่งผู้หญิงที่เพิ่งถูกข่มขืนเสร็จถึงหน้าบ้าน แถมยังสวมกอด พูดให้กำลังใจ แล้วจูบปากอย่างอ่อนโยน พร้อมขอให้เธอดูแลตัวเองมากขึ้น

 จาก การสอบสวนผู้เสียหายให้การว่า ผู้ก่อเหตุเธอไม่เคยรู้จักมาก่อนหน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสเก็ตช์รูปพรรณสัณฐานของคนร้ายจากคำให้การของผู้ เสียหาย เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
credit  http://www.siamupdate.com/news-183614

กรี๊ดสนั่น!! เมื่อ "กาละแมร์" ดูโชว์เสร็จออกมากดสิ่งนี้ พอเห็นโชว์นี้เท่านั้นรู้เลย (ชมคลิป) !


 นตรีไทย ดนตรีสากล การขับร้องเพลง และความสามารถในการโชว์เล่น “โฮเวอร์บอร์ด” บอกเลยว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เมื่อแสดงได้ถูกใจกรรมการจนทำให้ คุณการะแม ได้กด Gold Buzzer ให้กับทีมนี้ได้เข้าไปรอรอบไฟนอลอีกด้วย ถือว่าเก่งมากจริงๆ ลองไปชมคลิปกันเลยจร้า
เจ๋งอ่ะ

credit http://www.siamupdate.com/news-183686 

Friday, July 22, 2016

มท.ติวเข้ม9จังหวัดภาคกลางตั้งบริษัทประชารัฐรักสามัคคี

มหาดไทยนำทีมลงพื้นที่ติวเข้ม 9 จังหวัดภาคกลางตั้ง“บริษัทประชารัฐรักสามัคคี”มั่นใจช่วยยกคุณภาพชีวิตชุมชน ให้เข้มแข็ง เมื่อวันที่ 16 ก.ค.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้แทนคณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ....... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/biz/gov/443341
credit http://m.posttoday.com/biz/gov/443341

มท.1ตั้งกก.สอบผู้ว่าฯกทม.ปมอุโมงค์ไฟ39ล.

รมว.มหาดไทย ตั้งคณะกรรมสอบผู้ว่าฯกทม.ปมอุโมงค์ไฟ 39 ล้าน ชี้จะปลดใครต้องรอคดีถึงที่สุด เมื่อวันที่ 12 ก.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือสตง........ อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/local/bkk/442503
credit http://m.posttoday.com/local/bkk/442503

ประชันความสวย ! ส่องแฟชั่นนอกจอของ 4 สาวสุดฮอต จากละคร "นางทาส"


 ประชันแฟชั่นนอกจอของ 4 สาวนักแสดงนำจากละครเรื่อง นางทาส งานนี้แฟชั่นของใครจะเป๊ะปังกว่ากัน ตามมาให้คะแนนกันเลย

          แม้เพิ่งจะลงจอได้ไม่นาน แต่ก็มีหลายกระแสให้เม้าท์มอยกันให้แซดเลยทีเดียว สำหรับ "นางทาส" ละครอมตะที่สร้างมาแล้วหลายยุคหลายสมัย ซึ่งเวอร์ชั่นล่าสุด ปี 2016 นี้ ได้ทัพนักแสดงนำอย่าง ป๋อ ณัฐวุฒิ รับบทเป็น พระยาสีหโยธิน, แยม มทิรา รับบทเป็น อีเย็น, วุ้นเส้น วิริฒิพา รับบทเป็น คุณหญิงแย้ม, หยาดทิพย์ ราชปาล รับบทเป็น คุณสาลี่ และโยเกิร์ต รวีวรรณ รับบทเป็น คุณบุญมี ซึ่งตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวนักแสดง ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงคาแรคเตอร์ของนักแสดงที่ไม่เหมาะสมกับตัวละคร งานนี้เรียกได้ว่ามีสับเละ และดราม่ากันทั่วบ้านทั่วเมืองเลยทีเดียว

          แต่ ทั้งนี้กระปุกดอทคอมขอพักกระแสดราม่าเอาไว้ก่อน แล้วเปลี่ยนอารมณ์มาชมความสวยความงามของ 4 นักแสดงสาวสุดฮอตจากละครเรื่อง นางทาส เวอร์ชั่นนี้กันดีกว่าค่ะ ^^ บอกเลยว่าแฟชั่นนอกจอของศรีภรรยาทั้ง 4 นางของคุณพระยาทั้งเป๊ะและปังกันสุด ๆ ว่าแต่แฟชั่นของใครจะแซ่บเว่อร์กว่ากัน งานนี้ต้องตามมาดู....
    เริ่มกันที่ แยม มทิรา (อีเย็น) แม้ในจอจะดูเป็นนางทาสเจียมตัว แต่นอกจอเธอทั้งน่ารักและสดใสสุด ๆ เลยล่ะ
   วุ้นเส้น วิริฒิพา (คุณหญิงแย้ม) คุณหญิงมาดนิ่ง ในจอยังเป๊ะ นอกจอยิ่งเป๊ะกว่า แถมยังเซ็กซี่สุด ๆ อีกด้วยนะพูดเลย !
 หยาดทิพย์ ราชปาล (คุณสาลี่) แม้จะร้ายแสนร้ายยังไง แต่นอกจอนางก็น่ารักและมีเสน่ห์ไม่มีใครเกิน ^^
 โยเกิร์ต รวีวรรณ (คุณบุญมี) แม้ลุคในจอจะไม่ค่อยปัง แต่ตัวจริงเรียกเธอว่าแฟชั่นนิสต้าได้เลย มาดนางแบบสุด ๆ อ่ะคนเนี้ย

          โอ้ย เห็นแล้วเลือกให้คะแนนไม่ถูกกันเลยทีเดียว เอาเป็นว่าสวย เป๊ะ ปัง ตัดสินให้ชนะเลิศกันทุกคนเลยแล้วกันเนอะ อิอิ

credit http://www.khaohod.com/instagram-detail.php?did=6780
    

“แม่บ้าน”ฉกปืน”พ.ต.อ.”ยิงตัวเจ็บ เขียนจม.เผยสาเหตุ”น้อยใจ-เครียด”

จากกรณี น.ส.ไปรยมาส ฤทธิ์สาร อายุ 47 ปี อาชีพแม่บ้าน ใช้อาวุธปืนของ พ.ต.อ.ประจำในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยิงเข้าที่หน้าท้อง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในห้องพักเลขที่ 353 ชั้น 9 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม เวลาประมาณ 17.30 น. ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวลูกชายของผู้ได้รับบาดเจ็บมาสอบปากคำเพิ่มเติมใน ช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมเตรียมที่จะเดินทางเข้าสอบถามอาการจากแพทย์ผู้ดูแลรักษาอาการของ น.ส.ไปรยมาส ว่าจะสามารถเข้าสอบปากคำได้หรือไม่ หลังจากได้รับรายงานว่าทางแพทย์ได้ให้ทางผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากห้องไอซียู มาพักที่ห้องพักฟื้นในวันนี้ ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เชิญตัวเจ้าของห้องพักที่คอนโดฯดังกล่าวมาสอบปากคำ พร้อมยืนยันว่านายตำรวจเจ้าของปืน ยศ พ.ต.อ. เป็นผู้เช่าห้องดังกล่าว และพบความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่ารู้จักสนิทสนมกันเป็นอย่างดี และก่อนหน้านี้ น.ส.ไปรยมาสก็เคยพยายามจะทำร้ายตัวเองมาแล้ว แต่มีคนรู้จักมาห้ามไว้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบสาเหตุจูงใจ โดยในวันเกิดเหตุทางนายตำรวจเจ้าของปืนเพิ่งจะเข้าลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางเขน ว่าปืนประจำตัวถูก น.ส.ไปรยมาส เอาไป ก่อนเกิดเหตุเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น
พ.ต.อ.อำนาจ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถติดต่อ นายตำรวจคนดังกล่าวเพื่อเข้าให้ปากคำได้ เบื้องต้นอยู่ระหว่างประสานไปยังผู้บังคับบัญชาของนายตำรวจ ให้ติดต่อนายตำรวจต่อไป
ทั้งนี้ เวลา 17.00 น. พ.ต.อ.อำนาจ กล่าวอีกครั้งว่า วันนี้ลูกชายผู้บาดเจ็บขอเลื่อนมาพบพนักงานสอบสวน โดยยังไม่กำหนดวันที่จะเข้าให้ปากคำ ทั้งนี้ ในวันนี้ได้เดินทางไปพบผู้บาดเจ็บแล้ว เยังไม่สามารถให้การได้ เพราะยังมีอาการบาดเจ็บและอ่อนเพลียอยู่ แต่ได้เขียนหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรให้การว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเหตุ ที่เกิดจากตัวเอง ไม่มีใครมาทำร้ายแต่อย่างใด เกิดจากความน้อยใจและมีอาการเครียดเอง ที่ผ่านมาสนิทสนมกับพ.ต.อ.เจ้าของอาวุธปืน แต่เมื่อมาเกิดเรื่องดังกล่าวทำให้หลายคนได้รับผลกระทบ จึงอยากขอร้องทางสื่อมวลชนว่าตนเป็นต้นเหตุ ไม่อยากให้ใครเดือดร้อนและได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
credit  http://www.khaohod.com/news-detail.php?did=7645

"คุณรักษาตัวเอง โดยการทำร้ายคนอื่นไม่ได้"...เปิดโพสต์สุดท้าย"น้องแจน"ก่อนถูกฆ่า

 จากคดีสะเทือนขวัญเมืองสารคาม คนร้ายลวงสังหาร น.ส.รุจิษยา หรือแจน อมรศรีรัตนชัย อายุ 23 ปี ลูกสาวนายสมชาติ อมรศรีรัตนชัย ชื่อในวงการพระเครื่อง “เล็ก สารคาม” รองประธานบริหารพระเครื่องภาคอีสานเขต 2 ทิ้งศพบริเวณพงหญ้าข้างถนนบายพาสรอบเมืองมหาสารคาม หลังตลาดเกษตร ต.แก่งเลิงจาน (อ่านข่าว :ฆ่าโหดลูกสาวคนดัง!! พ่อรุดดูศพ ลูกเพิ่งกลับจากเมืองนอก สุดสะเทือนขวัญชาวบ้าน
 โดยน้องแจนเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองนอก ได้ไม่กี่เดือน และได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา บอกพ่อว่าจะไปเดินตลาดไนท์ที่ห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์ จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลยจนมาพบเป็นศพ สำหรับบุตรสาวคนนี้ และไปช่วยงานร้านกาแฟแห่งหนึ่งกับเพื่อนในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม (อ่านข่าว :RIP.เพื่อนคนไทย-ต่างชาติแห่โพสต์ไว้อาลัย "น้องแจน" สาวนร.นอกที่โดนฆ่าที่สารคาม
  ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุมีเพื่อนสนิทชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าไปโพสต์ไว้อาลัย"น้องแจ น"จนเต็มหน้าวอลเฟซบุ๊คของผู้ตาย อาทิ RIP น่ะคับ ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เห็นน้องโพสต์อยู่บนหน้าเฟสบ่อยๆ หลับให้สบายน่ะคับ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องมา ณ ที่นี้ด้วยน่ะคับ หลับให้สบายนะน้องรัก ... ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีนะแจน ไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์นะ ไม่ต้องห่วงม๊ากะน้องนะ ... ?#?พี่จะดูแลแทนให้เอง? RIP.นะเจ๊ ไปสู่ภพภูมิที่ดีนะ ทางนี้คงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้วแหละ หลับให้สบายครับ????? Rip ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีนะน้องแจน ขอแสดงความเสียใจกะครอบครัวน้องด้วยค่ะ
  นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนแชร์โพสต์สุดท้ายของ"น้องแจน"ที่โพสต์ในเฟซบุ๊คเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะโดนสังหารเพียงวันเดียว โดยน้องแจนโพสต์ข้อความว่า "You can't fix yourself by breaking someone else. คุณรักษาตัวเอง โดยการทำร้ายคนอื่นไม่ได้หรอกนะ
credit  http://www.khaohod.com/record-detail.php?did=6020

รัฐประหารตุรกี ประชุมมรดกโลกป่วน ไทยวืดเจรจาพม่าดันแก่งกระจาน ออกจากโรงแรมไม่ได้

ผู้ สื่อข่าวรายงานจากกรณีที่เกิดเหตุ การก่อการรัฐประหารที่ประเทศตุรกี เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทยนั้น ในขณะเดียวกัน ในนครอิสตันบูล มีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 40 ซึ่งตามกำหนดการเดิมจะมีระหว่าง วันที่ 10-20 กรกฎาคม นั้น อาจจะต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว มีคณะผู้แทนจากประเทศไทยเข้าร่วมประชุม โดยมี นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัคราชฑูตไทย ณ กรุงปารีส ในฐานะผู้แทนถาวรไทยประจำยูเนสโก ทำหน้าที่หัวหน้าคณะ นอกจากนี้ยังมี นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) นายประเสริฐ สอนสถาพรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานมรดกโลก นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนอุทยาน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 กรมอุทยานแห่งชาติ นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เดิมที คณะผู้แทนไทย จะนัดเจรจากับทางคณะผู้แทนจากประเทศเมียนมาร์ เพื่อเจรจากรณีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องการทับซ้อนของพื้นที่อุทยานแห่ง ชาติแก่งกระจาน เพื่อขอให้คณะกรรมการมรดกโลก นำเอาวาระการพิจารณาอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเข้าเป็นมรดกโลก ในเวลา 8.00 น.วันที่ 16 กรกฎาคม ตามเวลาประเทศไทย แต่เมื่อเกิดเหตุการรัฐประหารขึ้น การเจรจาดังกล่าวจะต้องเลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด เพราะคณะผู้แทนไทยทั้งหมด ไม่สามารถออกไปนอกโรงแรมที่พักได้ เพราะมีคำเตือนเรื่องความปลอดภัย ทั้งนี้ มีเสียงเครื่องบินรบ และเสียงคล้ายบอม หรือโซนิคบูม เกิดขึ้นในบริเวณตัวเมืองด้วย โดยกำหนดการที่คณะผู้แทนไทยทั้งหมดจะต้องเดินทางกลับในวันที่ 17 กรกฎาคม นี้ ก็อาจจะต้องเลื่อนออกไปอีกด้วย เพราะเวลานี้ สนามบินปิดทำการ อย่างไรก็ตาม ทางตัวแทนของผู้เข้าร่วมประชุมมรดกโลกจากประเทศไทย ทุกคนปลอดภัยดี
กำหนดการที่คณะ ผู้แทนไทยทั้งหมดจะต้องเดินทางกลับในวันที่ 17 กรกฎาคม นี้ ก็อาจจะต้องเลื่อนออกไปอีกด้วย เพราะเวลานี้ สนามบินปิดทำการ อย่างไรก็ตาม ทางตัวแทนของผู้เข้าร่วมประชุมมรดกโลกจากประเทศไทย ทุกคนปลอดภัยดี
credit  http://www.khaohod.com/record-detail.php?did=5953

สวดยับ ! กลุ่มนักศึกษาอาชีวะ ร้องเพลงดังลั่นรถเมล์ "...มาแล้ว ก็ไม่แคล้วปาระเบิด"


          สวดยับ ! กลุ่มนักศึกษาอาชีวะ ร้องเพลงดังลั่นรถเมล์ "กรุงธนมาแล้ว ก็ไม่แคล้วต้องปาระเบิด" ชาวเน็ตถามมารยาทมีไหม ? เพราะไม่ใช่รถส่วนตัว

          เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังมีการแชร์คลิปกลุ่มนักเรียนอาชีวะสถาบันหนึ่ง กำลังร้องเพลงปลุกระดมอยู่บนรถเมล์เสียงดัง โดยเนื้อเพลงมีท่อนเด็ดคือ กรุงธนมาแล้ว ก็ไม่แคล้วต้องปาระเบิด

          อย่างไรก็ตาม คนที่ได้ชมคลิปดังกล่าวต่างวิจารณ์ถึงมารยาทของนักศึกษากลุ่มนี้ว่าไม่เหมาะสม เพราะไม่ใช่รถส่วนตัว

อ่านก่อนโพสท์
  • ห้ามโพสท์พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ และราชวงศ์ ทุกกรณี
  • กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ ละเว้นการให้ร้ายผู้อื่น หยาบคาย ก้าวร้าว ลามกอนาจาร หรือโพสท์ข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น อันจะทำให้ได้รับความเดือดร้อน
  • ขอความร่วมมือไม่โพสท์ข้อความลูกโซ่ โฆษณา หรือข้อความที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในหน้านี้
  • ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ ผู้โพสท์ความคิดเห็นจะต้องรับผิดชอบข้อความของท่าน
  • ขอความร่วมมือสมาชิก ไม่ตั้งกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง
  • ไม่อนุญาตให้โพสท์เนื้อหาที่เจ้าของเนื้อหาไม่ยินยอมให้นำไปเผยแพร่ หรือมีลิขสิทธิ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
  • ไม่อนุญาตให้โพสท์เนื้อหาจาก ไทยรัฐ ข่าวสด เดลินิวส์ ผู้จัดการออนไลน์ NewsLike และเว็บหนังสือพิมพ์อื่นๆ
  • ไม่อนุญาตให้โพสท์เกี่ยวกับธุรกิจ ซื้อ-ขาย
  • ทีมงานขอสงวนสิทธ์ในการถอดกระทู้/ข้อความคิดเห็นโดยไม่ต้องชี้แจงหรือแจ้งล่วงหน้า
  • credit  http://www.khaohod.com/record-detail.php?did=5951

เตรียมงัดหลักฐาน!? “พชร์ อานนท์” ออกมาพูดแล้ว หลังหญิงสาวอ้างนักแสดง “ต” ทำร้ายร่างกาย ฉะกลับ!! เวรก

เตรียมงัดหลักฐาน!? “พชร์ อานนท์” ออกมาพูดแล้ว หลังหญิงสาวอ้างนักแสดง “ต” ทำร้ายร่างกาย ฉะกลับ!! เวรกรรมมีจริง..

แซ่บนัวแน่ๆงานนี้ สำหรับประเด็นที่มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า “น้องฟ้า” ออกมาแฉยับ นักแสดงชายอักษรย่อ “ต”สังกัด “พชร์ อานนท์”  เธอเล่าถึงเหตุการณ์ที่เขาลงมือทำร้ายร่างกายเธอ จนตัวบอบซ้ำ โดยต่อมาหลังจาก “พชร์ อานนท์” รู้ข่าวและทนดูไม่ไหว ก็ออกมาโพสต์ข้อความพร้อมกับเตรียมงัดหลักฐาน หาความจริงว่าฝ่ายไหนผิด ฝ่ายไหนถูก แซ่บไปอีกกกกก!!
 
ทั้งนี้ “พชร์ อานนท์” ก็ออกมาพูด พร้อมเตรียมงัดหลักฐาน
 
อ่านก่อนโพสท์
  • ห้ามโพสท์พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ และราชวงศ์ ทุกกรณี
  • กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ ละเว้นการให้ร้ายผู้อื่น หยาบคาย ก้าวร้าว ลามกอนาจาร หรือโพสท์ข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น อันจะทำให้ได้รับความเดือดร้อน
  • ขอความร่วมมือไม่โพสท์ข้อความลูกโซ่ โฆษณา หรือข้อความที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในหน้านี้
  • ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ ผู้โพสท์ความคิดเห็นจะต้องรับผิดชอบข้อความของท่าน
  • ขอความร่วมมือสมาชิก ไม่ตั้งกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง
  • ไม่อนุญาตให้โพสท์เนื้อหาที่เจ้าของเนื้อหาไม่ยินยอมให้นำไปเผยแพร่ หรือมีลิขสิทธิ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
  • ไม่อนุญาตให้โพสท์เนื้อหาจาก ไทยรัฐ ข่าวสด เดลินิวส์ ผู้จัดการออนไลน์ NewsLike และเว็บหนังสือพิมพ์อื่นๆ
  • ไม่อนุญาตให้โพสท์เกี่ยวกับธุรกิจ ซื้อ-ขาย
  • ทีมงานขอสงวนสิทธ์ในการถอดกระทู้/ข้อความคิดเห็นโดยไม่ต้องชี้แจงหรือแจ้งล่วงหน้า
  • credit  http://www.khaohod.com/record-detail.php?did=6005

ด่วน!เก๋งโซลูน่าพุ่งใส่พระพรหมเอราวัณ เจ็บ6 พบหญิงคนขับมีอาการเกร็ง (คลิปนาทีพุ่งชน)

อ่านก่อนโพสท์
  • ห้ามโพสท์พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ และราชวงศ์ ทุกกรณี
  • กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ ละเว้นการให้ร้ายผู้อื่น หยาบคาย ก้าวร้าว ลามกอนาจาร หรือโพสท์ข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น อันจะทำให้ได้รับความเดือดร้อน
  • ขอความร่วมมือไม่โพสท์ข้อความลูกโซ่ โฆษณา หรือข้อความที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในหน้านี้
  • ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ ผู้โพสท์ความคิดเห็นจะต้องรับผิดชอบข้อความของท่าน
  • ขอความร่วมมือสมาชิก ไม่ตั้งกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง
  • ไม่อนุญาตให้โพสท์เนื้อหาที่เจ้าของเนื้อหาไม่ยินยอมให้นำไปเผยแพร่ หรือมีลิขสิทธิ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
  • ไม่อนุญาตให้โพสท์เนื้อหาจาก ไทยรัฐ ข่าวสด เดลินิวส์ ผู้จัดการออนไลน์ NewsLike และเว็บหนังสือพิมพ์อื่นๆ
  • ไม่อนุญาตให้โพสท์เกี่ยวกับธุรกิจ ซื้อ-ขาย
  • ทีมงานขอสงวนสิทธ์ในการถอดกระทู้/ข้อความคิดเห็นโดยไม่ต้องชี้แจงหรือแจ้งล่วงหน้า
  • credit  http://www.khaohod.com/record-detail.php?did=6031

นายกฯเมินพระเมธีธรรมาจารย์ลั่นกม.ไม่ละเว้นใคร

นายกฯเมินพระเมธีธรรมาจารย์ประกาศเคลื่อนไหวหลังดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาสมเด็จช่วงย้ำให้เจ้าหน้าที่ว่ากันตามกระบวนการกฎหมายไม่ละเว้นใคร



เมื่อวันที่22ก.ค.59 เวลา 15.45 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)แจ้งข้อกล่าวสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช คดีครอบครองรถหรูโดยไม่ถูกต้อง หลังพระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ขู่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านว่า กฎหมายเขาว่าอย่างไร เจ้าหน้าที่เขามีกฎหมายอยู่แล้ว ผิดกฎหมายก็ดำเนินการ ซึ่งดำเนินการได้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น คิดว่าคนไทยต้องเข้าใจ กฎหมายคือกฎหมาย ยกเว้นใครไม่ได้อยู่แล้ว ก็แค่สอบสวนเข้าสู่กระบวนการ ถ้าถูกหรือผิด ก็ว่ากันมาในกระบวนการ มันก็จบแล้ว ทำไมจะต้องมีปัญหามากนัก ก็ไม่รู้เหมือนกัน บ้านเมืองติดไปหมด เอาเถอะเรื่องอื่นอย่าถามตนเลย ตนไม่ตอบอีกแล้ว เรื่องเกี่ยวกับการเมืองตนเลิกตอบ พอแล้ว

ก่อนหน้านี้ พระเมธีธรรมาจารย์(ประสาร จนฺทสาโร) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย(ศพศ) ได้โพสต์เฟสบุ๊ก กรณีดีเอสไอ ได้แถลงผลการสอบสวนเรื่องรถยนต์โบราณในพิพิธภัณฑ์วัดปากน้ำ ซึ่งมีข้อเกี่ยวพันกับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ว่า  ในนามองค์กรชาวพุทธและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ขอชี้แจง ดังนี้ 1.เราไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปของดีเอสไอ
2. เราเชื่อมั่นในความตั้งมั่นแห่งศีลที่บริสุทธิ์ของสมเด็จ
3.องค์กรชาวพุทธและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ยังคงยืนยันที่จะเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ต่อไป
         
“วันที่ 23 กรกฎาคมนี้ องค์กรชาวพุทธและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ร่วมจัดประชุมด่วน เพื่อกำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหว พร้อมออกแถลงการณ์ร่วมกันหลังการประชุม”พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าว
credit http://m.posttoday.com/social/general/444353

คดีข่มขืนในอินเดียจับนักโทษข่มขืนเปลือยกาย ลากไปตามถนน แล้วรุมตีจนตายแบบนี้ !?

ชาวอินเดียในนากาแลนด์สุดคับแค้นใจ บุกจับนักโทษข่มขืนจากในคุกออกมารุมประชาทัณฑ์ โดยจับถอดเสื้อผ้า ใช้เชือกมัดแล้วลากไปตามถนน ก่อนรุมตีด้วยไม้และปาก้อนหินจนตาย
ฝูงชนชาวอินเดียที่โกรธแค้น บุกเข้าไปในเรือนจำที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยสูงในเมืองดิมาปูร์ รัฐนากาแลนด์ เพื่อจับตัวนักโทษข่มขืนที่อยู่ในคุกออกมารุมประชาทัณฑ์ โดยฝูงชนประมาณ 4,000 คนได้บุกเข้าไปทางประตูทางเข้าเรือนจำทั้งสองด้าน แล้วจับผู้ต้องขังรายหนึ่งที่ก่อเหตุข่มขืนนักเรียนหญิงของมหาวิทยาลัยท้องถิ่นหลายครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยจับนักโทษคนดังกล่าวถอดเสื้อผ้าออกจนหมด จากนั้นก็ใช้เชือกมัดแล้วลากไปตามพื้นถนนเป็นระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร ก่อนจะรุมกระหน่ำตีด้วยไม้และปาด้วยก้อนหิน จนนักโทษเลือดอาบทั่วใบหน้า
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ต้องขังรายนี้คือ ไซเอด ฟาริด ข่าน ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มือสองวัย 35 ปี ซึ่งก่อเหตุข่มขืนหญิงสาววัย 20 ปี เมื่อวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ในหลายสถานที่ และถูกจับกุมตัวได้ในวันถัดมา ก่อนถูกควบคุมตัวไว้ในเรือนจำของรัฐนากาแลนด์
หลังเกิดเหตุบุกชิงตัวนักโทษออกมารุมประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังโดยนำรถกว่า 10 คันมาล้อมฝูงชนที่โกรธเกรี้ยว ก่อนพยายามจะใช้แก๊สน้ำตาในการสลายฝูงชนและชิงตัวนักโทษกลับมา ทว่ากว่าที่ตำรวจจะนำตัวนักโทษคืนมาได้ นักโทษคนดังกล่าวก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เหลือเพียงร่างที่ไร้ลมหายใจแล้ว
ทั้งนี้ เมืองดิมาปูร์ในรัฐนากาแลนด์อยู่ในช่วงการประกาศเคอร์ฟิว เนื่องจากเกิดเหตุความรุนแรงขึ้นในพื้นที่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเหตุการข่มขืนทำร้ายร่างกายสตรีชาวอินเดีย ที่ทำให้ผู้คนมีความโกรธแค้นต่อบรรดาผู้ก่อเหตุอย่างมาก
edit:  hotkhaosods.blogspot.com
credit http://www.boxfb.com/2016/07/blog-post_15.html

เผยแล้ว! นักธุรกิจสาวอดีตขวัญใจ มิตร มิตรชัย น้องชายดาราดัง แฉตอนคบเป็นแบบนี้ แฟนคลับถึงกับพูดไม่ออก !

 นักธุรกิจสาวอดีตหวานใจของ มิตร มิตรชัย บัญชา ชื่อเล่นว่า คุณปุ้ย ได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่า ตนเองไม่ได้มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับ พ.ต.อ. ปจภณ ตนรู้จักกับตำรวจรายนี้และภรรยาของเขามาเป็นสิบปีแล้ว สถานะตนกับตำรวจคือ เจ้าหนี้กับลูกหนี้เท่านั้น โดยเงินที่ตนยืม พ.ต.อ. ปจภณ ก็เอาไปให้มิตรยืมต่อ เนื่องจากมิตรอ้างว่าจะลงทุนตั้งคณะลิเก ต้องซื้อชุดจากต่างประเทศ และจะทำรายการลิเกออนทีวี ค่าลงทุน ค่าอุปกรณ์ ค่าทุกอย่างรวม 35.5 ล้านบาท
และได้บอกว่า กับมิตร มิตรชัยนั้น เราใช้ชีวิตร่วมกัน กำลังจะวางแผนอนาคต ซื้อบ้าน ใช้เงินผ่อน แต่ใช้ชื่อมิตรเป็นเจ้าของบ้าน แต่ก่อนหน้านี้มิตรได้มาขอเงินจำนวน 5 ล้าน เพื่อทำเอ็มวีใหม่ ตนไม่มีให้ มิตรเลยสั่งให้ตนเก็บของออกจากบ้าน และลบข้อความไลน์ของตนออกจนหมดจากนั้น ตนก็พยายามกู้ข้อมูลไลน์คืนจนได้ และไปหาเจ้าหนี้ พร้อมบอกว่าเธอไม่ได้ให้เงินมิตรแบบเสน่ห์หาแต่เป็นการให้แบบยืมกัน จากนั้นเจ้าหนี้ก็คือ พ.ต.อ. ปจภณ ได้นัดมาพูดคุยกันเพื่อให้มิตรเซ็นรับสภาพหนี้ โดยไม่ได้มีการขู่บังคับใด ๆ ทั้งสิ้น และก่อนหน้านี้ตนก็ไปแจ้งความ ที่ สน.คูคต มาแล้วว่า มิตรผิดข้อตกลง ที่จะจ่ายหนี้ 5 ล้าน ในวันที่ 30 สิงหาคม อีก 5 ล้าน ในวันที่ 30 กันยายน และต้องจ่ายอีก 25.5 ล้าน ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งมิตรเลื่อนให้ปากคำมาแล้ว 1 ครั้งและล่าสุดก็ยังขอเลื่อนให้ปากคำอีก โดยระบุว่าติดภารกิจ
 สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างมิตรกับคุณปุ้ย คุณปุ้ยยืนยันว่า ตนไม่ใช่แม่ยกแน่นอน เพราะรู้จักครอบครัว และทุกคนในครอบครัวมิตรก็เรียกตนว่า น้องสะใภ้ ส่วนตนกับมิตรรู้จักกันในนามของแฟนคลับ ประมาณ 1 ปี ตนไปดูลิเกของมิตร 2-3 ครั้ง และหลังจากนั้นก็ได้พูดคุยทางไลน์ส่วนตัว ซึ่งตอนนั้นมิตรบอกว่าจะทำคณะลิเก ตนก็เห็นด้วยและช่วยเป็นสปอนเซอร์ ซึ่งหลัง ๆ ก็คุยกันมากขึ้น และเป็นแฟนกัน โดยมิตรเคยบอกรักและเคยบอกว่าจะสร้างครอบครัวกับตน
   ส่วนเรื่องเงินนั้น เขาก็ทราบดีกว่าไม่ใช่เงินของตน ตนไปหยิบยืมมาซึ่งเขาก็รับทราบทุกอย่าง เขาก็บอกจำนวนเงินที่จะเอามาเรื่อย ๆ ซึ่งตนเชื่อเรื่องตั้งคณะลิเก เป็นเพราะตอนที่เขาไปคุยกับนายทุน เขาก็พาเราไปด้วย เอาโปรเจคท์ไปด้วย แต่ตนไม่ได้เข้าไปในห้องด้วยเท่านั้น นอกจากนี้เขายังพร่ำบอกเรื่องรายได้ ตนเห็นว่าสมน้ำสมเนื้อก็เลยสนับสนุน อีกทั้งยังบอกว่าเอาเงินนี้มาสร้างครอบครัว ตนก็เลยให้ไป แต่หลังจากนั้นเมื่อตนไม่มีเงินให้ ก็บอกให้ตนเก็บเสื้อผ้า ซึ่งในวันนั้นก็ถามตนอีกนะ ว่ามีเงินให้ไหม ถ้ามีก็จะคบต่อ แต่ไม่มีก็ให้ออกไป

         คุณปุ้ย กล่าวอีกว่า กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนอายมาก อายตั้งแต่วันที่รู้ว่าโดนหลอก แต่ที่ออกสื่อก็เพราะต้องการยืนยันเรื่องความสัมพันธ์ว่าไม่ใช่แม่ยก และเพื่อบอกให้ทุกคนรู้ เขาจะได้ไม่ทำอย่างนี้กับผู้หญิงคนอื่นอีก
credit http://www.siamupdate.com/news-177336

แทบช็อก! หนุ่มขายรถ 485,000บาท เลยฝากเงินไว้กับธนาคาร แต่พอกลับมาดูอีกที ถึงกับใจสลาย !

ที่มา http://pantip.com/topic/34244523
วันนี้ผู้สื่อข่าว Siamupdate ได้รับรายงานว่าขณะนี้บนโลกโซเชี่ยล ได้มีการแชร์ข้อมูลที่เป็นอุทาหรณ์ได้อย่างดี โดยสมาชิก pantip ท่านหนึ่ง ได้ออกมาแชร์ข้อมูลดังนี้
มาเล่าเป็นเรื่องเตือนใจครับ
เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้ผมได้ตกลงขายรถยนต์ราคา485,000บาท คนซื้อนั่งรถทัวร์มาจากเชียงราย
ก็ตกลงได้ซื้อขายกัน เวลา12.00น. ผมก็ขับรถไปที่แบงก์สีเขียว แยกทศกัณฑ์ พุทธมณฑลสาย2
คนซื้อก็โอนเงินเข้ามาในบัญชีผมเรียบร้อย เวลา12.30น. ก็ขับได้โอนรถกันที่ขนส่ง จตุจักร จบเรียบร้อย ก็แยกย้ายกันกลับ

เวลา15.30น. ผมก็ได้มาเซ็นทรัล ลาดพร้าว เพื่อจะพาลูกไปกินข้าว ก็เดินไปกดATM 500บาท จึงรู้ว่าเงินในบัญชีหายไป
จึงติดต่อเจ้าหน้าที่แบงก์เขียวที่นั้นเลย เจ้าหน้าที่ก็เช็คที่สมุดผม แล้วแจ้งว่ามีการโอนเงินผิด จึงดึงเงินกลับไป
ผมก็หน้าซีดเลย เพราะไปอัพสมุด เงิน485000ถูกถอนออกโดยที่ผมไม่รู้เรื่องเลย (รหัสต่อท้ายK0571798*) ซึ่งปกติจะเป็นCSN หรือTRN
เจ้าหน้าที่จึงโทรไปประสานที่สาขาที่แรกที่โอนเงินกัน ระหว่างนั้นผมก็เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังถึงเรื่องราว และรถก็โอนไปแล้วด้วย
เจ้าหน้าที่จึงขอสำเนาบัตรประชาชนของคนซื้อ ซึ่งอยู่ในรถ ผมต้องลงมาเอาให้เจ้าหน้าที่
จากชั้น2มาชั้นใต้ดิน ใช้เวลาไม่เกิน10นาที ผมวิ่งเหมือนคนบ้า คิดตลอดว่าทำไมต้องมาเกิดกับผมด้วย เงินก็ไม่น้อย
กดมือถือโทรหาคนซื้อ โทรติด2ตืด สายตัดไป โทรอีกก็ "ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่คุณเรียก" ในใจคิด โดนแล้ว
แล้ววิ่งมาเอากระเป๋าเป้ขึ้นมาที่แบงก์ ในสภาพจะเป็นลม หน้ามืด หายใจไม่ทัน เอาสำเนาบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ดู
ได้รับคำตอบว่า เงินกลับเข้ามาแล้วนะคะ ผมยืนอึ้งอยู่พักใหญ่ เจ้าหน้าที่อธิบายว่าน้องคนที่ทำเรื่องโอนให้เป็นน้องใหม่
เค้าลืมเก็บค่าธรรมเนียมโอนต่างจังหวัด จึงดึงเงินกลับไปก่อน
ผมยืนคิดอะไรไม่ออก ขอถอนเงินสดออกมาเลย แต่แฟนผมโมโหสุดๆ ต่อว่าไปจนผจก.สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว
เดินมาหา และโทรหาน้องใหม่ ต่อว่าไปชุดใหญ่ ว่าจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ เงินของผมอยู่ในบัญชี อยู่ๆมาถอนออกไปโดยที่ผมไม่รู้เรื่องเลย

ตอนนี้ผมคาใจอยู่ว่าพนักงานแบงก์ มีสิทธิถอนเงินเราได้ โดยไม่ต้องใช้สมุด ไม่ต้องใช้เอกสารอะไรเลย ได้ยังไง ไม่มีการโทรแจ้งผม
ข้อความก็ไม่ส่งมาที่มือถือ โดยปกติเงินเข้าเงินออกจะส่งข้อความมาตลอด หรือว่าสั่งได้ครับ เพราะเงินเข้ามาในบัญชีแล้ว

ถ้าลืมเก็บค่าธรรมเนียมก็ต้องตามที่ลูกค้า ไม่ใช่มาถอนเงินกลับ แบบนี้เข้าข่ายฉ้อโกงหรือเปล่า
ออกมาจากแบงก์ได้20นาที พนักงานที่สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว โทรมาหาว่าลืมผมลืมบัตรประชาชนตัวจริงไว้ จึงกลับไปเอา
ในช่วงเวลา30นาทีที่เงินหายไป ไม่มีคำขอโทษจากน้องใหม่เลย จนถึงปัจจุบัน

ปล.พิมพ์ไม่เก่งนะครับ
credit http://www.siamupdate.com/news-177283

ร้องไห้หนัก!! "พิมพ์ ซาซ่า" โพสต์สิ่งนี้เผชิญความตาย อ่านแล้วน้ำตาไหล สงสารเธอจับใจ !?

 หลังจากที่  "พิมพ์"พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร อดีตนักร้องสาวหนึ่งในสมาชิกวงซาซ่า นักแสดงและผู้จัดละคร วัย 35 ปี  เปิดใจว่าป่วยมะเร็งรังไข่ระยะแรก ทำคีโมแล้ว 5 ครั้ง จนผมเริ่มร่วง บอกด้วยว่า ช่วงทราบเรื่องใหม่ๆ ทำอะไรไม่ถูก เพราะตั้งตัวไม่ทัน ทั้งหมอ ครอบครัว และคนรอบข้างต้องคอยให้กำลังใจ จนวันนี้มั่นใจว่ามีโอกาสหายถึง 90 เปอร์เซ็นต์
โดยก่อนหน้านี้ พิมพ์ได้โพสต์ภาพและข้อความอินสตาแกรม @pimmada ว่า "สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้มาฝากนะคะ พิมพ์มีความสุขมากกับการมาเข้าคอร์ส เผชิญความตาย ด้วยใจสงบ ในครั้งนี้ การเตรียมตัวตายไม่ใช่เป็นการแช่งตัวเองแต่อย่างใด แต่เตรียมพร้อมและยอมรับกับสิ่งที่เราทุกคนไม่มีวันหนีพ้น นั่นคือ ความตาย แต่จะตายแบบไหนเราฝึกได้ กราบพระอาจารย์ ไพศาล วิสาโล"



ขอบคุณข้อมูลจากไอจี @pimmada
credit http://www.siamupdate.com/news-181376

สะใจทั่วโลก! รัสเซียสุดทน ส่งเครื่องบินถล่ม 5 ฐานที่มั่น ไอเอส !

ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ สยามอัพเดท ได้รับรายงานว่า ขณะนี้สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซีย รายงานอ้าง นายริยาด ฮัดดาด เอกอัครราชทูตซีเรียประจำกรุงมอสโกว์ ของรัสเซีย ว่า เครื่องบินรบรัสเซียได้ถล่มที่มั่น 5 แห่งของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียในวันนี้ โดยระบุว่า ปฏิบัติการภายใต้การบังคับบัญชาของรัสเซียในฐานะพันธมิตรในครั้งนี้ นับว่าสำคัญและจะปรากฏผลอย่างชัดเจนในอีก 2 - 3 วันนี้

ทูตซีเรียตั้งข้อสังเกตว่า กองกำลังรัสเซียได้โจมตีทางอากาศห่างจากย่านชุมชนค่อนข้างมาก เนื่องจากมีการประสานงานอย่างดีกับกองทัพซีเรีย และระบุว่า กองทัพซีเรียมีประสบการณ์ในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย จึงสามารถระบุตำแหน่งการโจมตีทางอากาศให้กับกองกำลังรัสเซียได้อย่างแม่นยำ
ทูตซีเรียยังได้ขอบคุณ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน และประชาชนชาวรัสเซีย ที่ให้การสนับสนุนแก่รัฐบาลซีเรีย ซึ่งยืนหยัดปกป้องเพื่อสิทธิ์และหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศมาโดยตลอด
credit http://www.siamupdate.com/news-177323

สาวช็อกหนัก!! หนุ่มขอคืนดี เจอคำถามอดีตแฟนเข้าไปถึงกับอึ้ง พอแฟนหนุ่มตะครุบขาเธอไว้ ดันไปดึงเกาะอกหลุดอีก (ชมคลิป)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า (11 ก.ค.) ที่กวางโจว ประเทศจีน มีรายงานคลิปวีดีโอที่มีคนแชร์กันเป็นอย่างมากบนโลกโซเชียลฯ เป็นคลิปอดีตแฟนหนุ่มชาวจีนคนนี้คุกเข่าขอแฟนสาวคืนดี แต่พอได้ยินคำที่อดีตแฟนสาวของเขาพูด ทำเอาถึงกับพูดไม่ออกเลย

อดีตแฟนสาวพูดว่า เธอซื้อกระเป๋าแพงให้ฉันได้ไหม? เธอซื้อของดีๆให้ฉันได้ไหม? เธอดูแลฉันดีไหม? เธอเอาแต่เล่นเกมส์ไม่สนใจฉันเลย เธอไม่สามารถดูแลฉันได้เลย

จากนั้นฝ่ายหญิงจะเดินจากไป แต่เขาก็เข้าตะครุบขาเธอไว้ แต่เคราะห์ร้ายที่เขาดึงเอาชุดเกาะอกของเธอจนร่วงลงมาด้วย และเปิดเผยร่างกายส่วนบนของหญิงสาว เธอกรี๊ดด้วยความตกใจและรีบดึงชุดเกาะอกของตัวเองขึ้น ขณะนั้นเองชายหนุ่มอีกรายเข้ามาบังร่างหญิงสาว ก่อนชี้หน้าด่าเขาและคนที่ยืนมุงถ่ายคลิป ก่อนจะพาหญิงสาวเดินจากไป
credit http://www.siamupdate.com/news-183685

แตกตื่นกันยกใหญ่! ชาวประมงจับปลาตัวนี้ได้ เมื่อรู้ว่ามันคือปลาอะไรทำเอาคนสนใจกันอย่างมาก !

เป็นที่ตื่นตาตื่นใจในชาวโซเชียลอย่างมาก เมื่อสำนักข่าวเดลีสตาร์ของอังกฤเผยแพร่ภาพ "ปลาประหลาด" มีลักษณะนั้นต้องบอกเลยว่าประหลาดจริงๆ

ตัวยาว 3 เมตร ผิวหนังมีสีเทาอมชมพูตุ่นๆ ศีรษะกว้าง ตาดูแคบๆ มีฟันซี่เล็กๆ ปากใหญ่ๆ จมูกกลม ซึ่งจริงๆแล้วแม้อาจจะดูน่าเกลียดจนใครๆอาจหลงคิดว่าเป็นตัวเอเลี่ยน แต่จริงๆแล้วมันคือ "ซือโดทราเคียส ไมโครดอน" หรือที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเลจำนวนมากเรียกว่า "ฉลามโซฟา" ตามรูปพรรณสัณฐานที่ดูหย่อนยาน นุ่มนิ่มๆ เหมือนโซฟาเก่าๆที่ถูกเอาไปทิ้ง ซึ่งถือเป็นสัตว์หายาก ไม่เคยปรากฏตัวที่ชายฝั่งทะเลทางตอนเหนือของสหราชอาณาจักรมาก่อน

ที่สำคัญคือเจ้าฉลามโซฟาที่ว่านี้มันไม่ใช่สายพันธุ์ที่เป็นอันตรายต่อ มนุษย์ พวกมันจะกินแค่สัตว์ตัวเล็กๆอย่างปลาไหล ปลาหมึก และกุ้งเท่านั้น แถมยังเคลื่อนไหวช้าอีกด้วย

"ผม ประหลาดใจมากเลยตอนมันมานอนแปะอยู่ในเรือของเรา" ฟรานซิส นีท นักชีววิทยาทางทะเล กล่าว และว่า "เราเลยรีบวัดขนาดตัวและน้ำหนักมัน ก่อนจะปล่อยกลับลงน้ำ คือเราไม่เคยเห็นมันมา 10 ปีแล้ว มันไม่เคยโผล่ในน่านน้ำสก็อตแลนด์ แต่นี่มันน่าสนใจมากๆ"

นอกจากนี้ฟรานซิสยังกล่าวต่ออีกด้วยว่า เมื่อก่อนเคยเข้าใจว่าในน่านน้ำสก็อตแลนด์จะมีฉลามถึง 72 สายพันธุ์ แต่ไม่นานมานี้เพิ่งจะทราบว่าแท้จริงแล้วมีเพียง 32 สายพันธุ์เท่านั้น ซึ่งส่วนมากจะเป็นฉลามน้ำลึก

ส่วนฉลามโซฟานี้จะอาศัยอยู่ที่ความลึกราว 1,400 เมตร หนักประมาณ 60 ก.ก. ซึ่งแม้จะไม่ใช่สัตว์ที่พบเห็นได้ง่ายๆ แต่ก็ยังมีผู้พบมันอยู่บ้างตามจุดต่างๆบนโลก รวมทั้งมหาสมุทรแอตแลนติกฝั่งตะวันตก และมหาสมุทรแปซิฟิกด้วย

ที่มา :Daily Star

เรียบเรียงโดย : siamupdate.com
credit http://www.siamupdate.com/news-177369

เปลี่ยนไปมาก! จาก สาวอ้วนดำ เตี้ย ลงทุนหมดไป 1 ล้าน เปลี่ยนไปจนหนุ่มๆเข้าคิวจีบยัง เปลี่ยนไปยังไงมาดูกัน !

เน็ตไอดอลเอื้ออาทร “น้องแนน โนตม” ศัลยกรรมหมดเงินเกือบล้าน! รีวิวสินค้าหลักร้อย!

เรียกได้ว่าเป็น “เน็ตไอดอลเอื้ออาทร” ก็ว่าได้ สำหรับ น้องแนน นมโต เฟสบุค Nanny Jaruwan ผู้ทุ่มเงินเกือบล้านพลิกโฉมทำศัลยกรรมตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ จบออกมากลายเป็นสาวสวยแบ้ว เรียกได้ว่าเพื่อนร่วมห้องพากันจำไม่ได้กันหลายคน เปลี่ยนไปมาก สวยขึ้นผิดหูผิดตา น้องแนน ไม่อายไม่เถียงว่าทั้งหมดทั้งมวล ผลงานหมอศัลยกรรมล้วนๆ

“หนูเรียนที่ ศรีปทุมตอน ป.ตรี จบปุ๊ปก็เรียนต่อ ป.โท ที่นี่เลยค่ะ คือตอนเข้ามหาลัยใหม่ๆ แบบเพื่อนๆรอบตัวมีแต่คนน่ารัก สวยๆ มีเราที่แบบหน้าตา อย่าเรียกว่าทุเรศเลย แบบไม่ไหวจะเคลียร์จะดูดีกว่า คือเพลียกับหนังหน้าตัวเองมากพี่ จนกระทั่งตัดสินใจไปทำศัลยกรรมทำมาหลายรอบมาก ทำจมูกทำตา ทำปากทำจมูก คือส่วนไหนที่มันทำแล้วเราดูดีขึ้น หนูก็ทำ สำหรับแนน การทำศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติ คนเกาหลีเขาก็นิยมทำกัน ปรากฏยิ่งทำ เรายิ่งดูโอเค สุดท้ายก็เพิ่งไปทำนมมาใหม่ เรียกได้ว่าตอนนี้ถึงจุดที่แบบเรียกได้ว่าพีคสุดๆแล้วในชีวิตแนนค่ะ”

หลังจากสวย จากชะนีหน้าปลวกผู้ชายไม่อยากเข้าใกล้ ศัลยกรรมแปลงร่างกลายเป็นสาวสวยหน้าใสสไตล์เกาหลี แนน หนุ่มๆผู้ชายเข้าหา แจกเบอร์โทรแทบไม่ทัน “เคยอ่านข่าวในเวบไซต์ที่แบบมีผู้หญิงไปทำศัลยกรรมเพราะแบบขี้เหร่ขนาดโจรยังไม่คิดจะข่มขืน ประมาณว่ามีหน้าตาเป็นอาวุธ แนน ก็อารมณ์ประมาณนั้นเลยค่ะพี่ คือแบบไม่มีใครเข้ามาจีบเข้าคุยด้วย ผู้หญิงอย่างว่าแหละเรื่องแบบนี้ไม่มีใครยอมใคร พอเราไปทำศัลยกรรมมา พูดเลยแจกเบอร์โทรแทบไม่ทัน 5555 (หัวเราะร่วน)”
ทำศัลยกรรมหมดเงินไปเกือบล้าน แต่มารับรีวิวสินค้าแค่หลักร้อย จนกลายได้ฉายาว่า เน็ตไอดอลเอื้ออาทรคนแรก ของวงการเน็ตไอดอล “ก็ตลกนะมีคนตั้งฉายาให้ แต่แบบโดยส่วนตัว หนูเองไม่คิดว่าเราดังหรือคนติดตามเป็นแสนๆหรือเป็นล้าน ที่จะเรียกค่ารีวิวอะไรขนาดนั้น เอาเป็นว่าแนนมาถึงจุดนี้ก็ถือว่าภาคภูมิใจแล้วนะ เพราะจากผู้หญิงที่ไม่ได้สวย แต่ได้หมอที่เริ่ดจนทำให้แนนชีวิตเปลี่ยนไป และการที่มีคนมาจ้างรีวิวสินค้าหลักไม่กี่ร้อยบาท ถือว่าช่วยเหลือกันมากกว่าเพราะเน็ตไอดอลบางคนรีวิวแพงๆหลายแสน หลายหมื่น แต่ไม่มีฟี๊ดแบ็ค แอบสงสารเจ้าของสินค้าเหมือนกัน แนน ว่าของแบบนี้มันต้องถ้อยถีถ้อยอาศัยกัน”
โดนเม้าท์ว่าเลียนแบบเน็ตไอดอลชื่อดังอย่าง แอมมี่ บอกรักผัว  “ว้ายย!!! ไม่จริงค่ะ แนน ก็เป็นตัวของแนน เขาเป็นตัวของเขา เรามีแบบฉบับของเราเองค่ะ ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบใคร ทุกวันนี้ก็แฮปปี้กับชีวิต เรียนใกล้จะจบปริญญาโท แล้วค่ะ สำหรับแนนเอง คิดว่าการเป็นตัวเราสำคัญที่สุด”
คุ้มมั้ยที่หมดเงินเกือบล้านแต่รีวิวสินค้าได้เงินหลักร้อย “คุ้มมั้ยถ้ามองในแง่ธุรกิจมันก็ไม่คุ้มหรอก แต่สำหรับแนนทำศัลยกรรมเพราะเราอยากสวยมากกว่า อยากมีคนชอบเยอะๆ ส่วนเรื่องอื่นที่ตามแนนว่ามันผลพลอยได้มากกว่าไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ค่ะ”
เรียนถึงปริญญาโท ไม่กลัวคนด่าเรอว่าคิดได้นี้เรอ ทำศัลยกรรมเพื่อเป็นเน็ตไอดอลรับรีวิวสินค้า มันดูสวนทางกับความรู้และการศึกษา  “ก็มีคนว่าเราในมุมที่แบบ เรียนสูงๆแบบนี้ยังสิ้นคิด คิดได้แค่นี้เรอ แนนว่ามันก็ไม่ได้เสียหายนิ อย่างน้อยสิ่งที่เราทำนั้นมีความสุขที่จะทำ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอึดอัดใจ อีกอย่างเราไม่ได้ขอเงินเขากินเขาใช้ หาเลี้ยงชีวิตตัวเอง นอกนั้นแนนไม่สนใจ ใครจะวิจารณ์เรายังไง เพราะเรารู้ตัวเองดีมากที่สุดๆว่าเรากำลังทำอะไร คิดอะไรและผลลัพธ์มันจะออกมายังไง”
credit http://www.siamupdate.com/news-177353

เอาแล้วไง !! ญาติหนุ่มรักร่วมเพศ เผยหลักฐานเด็ด อาจเป็นการตั้งใจฆ่า ซวยแล้ว !

ทาง สยามอัพเดท ได้รับแจ้งมาจากสมาชิก ชื่อ อานนท์ว่า คดีหนุ่มรักร่วมเพศทิ้งศพคู่ขาไปทำแผน แต่เจอทัพสื่อเลยถอย ด้านญาติผู้ตายยังไม่ปักใจเชื่อว่าเสียชีวิตเพราะเซ็กส์พิสดารจริง สงสัยมีคนร่วมก่อเหตุมากกว่า 2-3 คน รอตำรวจสอบ

            จากคดีพบศพชายสวมเสื้อผ้ารัดรูปสีดำ มีสายโทรศัพท์รัดคอ มีถุงพลาสติกครอบศีรษะ และมีเชือกไนลอนรัดทบ ถูกทิ้งไว้ใกล้ป่าอ้อย ถ.เลี่ยงเมืองขอนแก่น-อุดรธานี ทราบชื่อคือ นายนิยามชัย พนักงานหน่วยราชการแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายกฤษมณญ์ ธนดลไพศาลกุล อายุ 27 ปี อดีตพนักงานธนาคาร ซึ่งเป็นคู่ขากัน พร้อมยอมรับว่า ผู้ตายเสียชีวิตขณะมีเพศสัมพันธ์กันตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น (อ่านข่าว เซ็กส์พิสดาร ! หนุ่มรักร่วมเพศทำคู่ขาตาย นำศพไปทิ้งหาย 9 วัน)

            เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 ตุลาคม 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายกฤษมณญ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 3 จุด คือ จุดที่ 1 ปั๊มแก๊ส ปตท.บ้านทุ่ม ซึ่งเป็นจุดที่ทั้งสองคนพบกัน จุดที่ 2 ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทั้ง 2 คน นัดกันไปหาความสุข และจุดที่ 3 ที่ป่าอ้อย ซึ่งผู้ต้องหานำศพมาทิ้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ต้องหาพบว่ามีนักข่าวมารอทำข่าวเป็นจำนวนมาก จึงปฏิเสธทำแผน และขอให้นำตัวกลับไปที่ สภ.เมืองขอนแก่นทันที
            อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวของผู้ตายไม่เชื่อว่าผู้ตายจะเสียชีวิตเพราะเหตุ ทางญาติได้หาหลักฐานเป็นกล้องแอบถ่าย  ที่มีการซ้อนไว้ และยังบอกได้เท่านี้  ตอนนี้เก็บศพไว้ตรวจสอบก่อน และเชื่อว่าอาจจะมีคนร่วมก่อเหตุมากกว่า 2-3 คน จึงรอให้ตำรวจสรุปคดีเสียก่อน

ที่มา : สำนักข่าวไทย
เรียบเรียงโดย : สยามอัพเดท
credit http://www.siamupdate.com/news-177375

ยังจำชื่อนี้ได้ไหม?? "ผู้พันตึ๋ง" พ้นคุกแล้ว!!! สิ้นอิสรภาพนาน14ปี หลังถูกตัดสินประหารชีวิต !

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. มีรายงานจากเรือนจำกลางบางขวาง เผยว่า ขณะนี้ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ "ผู้พันตึ๋ง" ผู้ต้องขังคดีฆาตกรรมนายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เมื่อปี 2544 ได้รับการพิจารณาพักการลงโทษ และถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำกลางบางขวางแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา

สำหรับ "ผู้พันตึ๋ง" นั้น ต้องโทษคดีฆาตกรรมผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร โดยศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิตฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเห็นตามศาลชั้นต้น และในปี 2549 ศาลฎีกามีคำพิพากษาสิ้นสุดยืนตามศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิต กระทั่งวันที่ 9 ธ.ค. 2550 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ลดโทษประหารชีวิต เหลือจำคุกตลอดชีวิต นอกจากนี้ ผู้พันตึ๋งยังได้รับการอภัยโทษหลายครั้งในโอกาสสำคัญต่างๆ จนเหลือโทษประมาณ 17 ปี และถูกจำคุกมาแล้ว 14 ปี

ทั้งนี้ ผู้พันตึ๋งได้รับการพักการลงโทษตามเงื่อนไข คือเป็นผู้ต้องขังชั้นเยี่ยม ได้รับโทษมาแล้วเกิน 2 ใน 3 เหลือระยะเวลาพักการลงโทษ 2 ปี 9 เดือน 15 วัน สำหรับกรณีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์พักการลงโทษ โดยเรือนจำทำหน้าที่เสนอรายชื่อผู้ต้องขังที่เข้าเงื่อนไขพักการลงโทษ เพื่อให้คณะกรรมการของกรมราชทัณฑ์พิจารณาตามขั้นตอน

โดยหลังจากนี้ ผู้พันตึ๋งต้องไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ จนครบกำหนดเวลาคุมประพฤติในช่วงพักการลงโทษอีก 2 ปี 9 เดือน 5 วัน กับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจังหวัดนนทบุรี

อนึ่ง สำหรับการอภัยโทษครั้งใหญ่ที่มีขึ้นบ่อย คือในช่วงในปี 2553 - 2555 ซึ่งมีการอภัยโทษครั้งใหญ่ติดๆ กัน 3 ปีซ้อน ทำให้ผู้ต้องโทษประหารในคดีอาญาทั่วไปทุกราย ได้รับการอภัยโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต และต่อมาปี 2554 ลดอีกครึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 50 ปี จากนั้นปี 2555 ได้ลดอีกครึ่งหนึ่งเหลือ 25 ปี
credit http://www.siamupdate.com/news-177370

กรี๊ดสนั่น!! เห็นคนมองแปลกๆเธอคนนี้นั่งกินก๋วยเตี๋ยว แทบไม่อยากเชื่อจะเป็นเจ้าแม่ซุปตาร์คนนี้ ติดดินจริงๆ !

นอกจากซุปตาร์ อั้ม พัชราภา ที่คนมักพูดถึงการกินอยู่ที่ติดดิน เรียบง่ายแล้ว ซุปตาร์รุ่นน้องอีกคนอย่าง ชมพู่ อารยา ก็ยังถูกพูดถึงและชื่นชมในเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งหลังจากที่ชมพู่เพิ่งเดินทางกลับมาจากปารีส ได้ไม่กี่วัน
ล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ (11 ก.ค.) ได้เห็นภาพชมพู่ ตระเวนทานอหารมื้อดึก เมนูดังข้างทาง ทั้งอาหารตามสั่ง เย็นตาโฟ และต่อด้วยของหวานเป็นร้านนมสด ถึงแม้ว่าชมพู่ จะเป็นสาวรักสุขภาพ ออกกำลังกาย และกินอาหารคลีนเป็นส่วนใหญ่แล้ว วันสบายๆ ของชมพู่ ที่กินแบบเต็มที่ ไม่จำกัดแคลอรี่แบบนี้ ก็มีเช่นกัน

ซึ่งเสียงแฟนๆ ส่วนมากก็ต่างชื่นชมเธอ ว่ากินง่ายและยังติดดินเหมือนเดิม แบบนี้ FC ชมพู่ถึงได้มากขึ้นทุกวัน


รูปภาพจากอินสตาแกรม @ chomismaterialgirl
credit http://www.siamupdate.com/news-183699